ใช้เกียร์ออโตเมติกที่ถูกต้องระหว่างติดไฟแดง..มาดูกันว่าหลายๆครั้งเราทำถูกหรือผิดกันแน่?

ปัจจุบันรถยนต์ที่เป็นเกียร์ออโตเมติกเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากขับขี่สบายไม่ต้องเมื่อยเปลี่ยนเกียร์และเหยียบคลัตช์ (Clutch) ตลอดเวลายามรถติด แต่อาจมีบางท่านเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้เกียร์ออโต ส่งผลให้ทอนอายุการใช้งานของรถโดยไม่รู้ตัว... http://winne.ws/n6967

591 ผู้เข้าชม
ใช้เกียร์ออโตเมติกที่ถูกต้องระหว่างติดไฟแดง..มาดูกันว่าหลายๆครั้งเราทำถูกหรือผิดกันแน่?ภาพจาก shutterstock.com

          การเปลี่ยนเกียร์จาก D ไป N ในเวลาที่รถติดไฟแดงบ่อยๆนั้นหลายคนคงเคยปฏิบัติกันอยู่เนื่องจากเวลารถติดขี้เกียจเหยียบเบรกก็เข้าเกียร์ N ไว้เมื่อรถเคลื่อนก็เปลี่ยนเป็น D ถ้าช่วงรถติดแล้วขยับเคลื่อนทีละนิดทีละหน่อย ทำให้ต้องเปลี่ยน D-N-D-N-D-N อยู่อย่างนี้เท่ากับคุณกำลังทำร้ายระบบเกียร์ของคุณอยู่ 

          ระบบเกียร์ออโตเมติกนั้นจะประกอบด้วยชุดเกียร์ที่ขบกันตลอดเวลาการส่งแรงจาก N ไป D จะต้องมีการสึกหรอของเฟืองนั้นต้องมีการปล่อยและจับอยู่ตลอดเวลาอายุการใช้งานก็จะสั้นลง เพราะถ้าเบรกอยู่เฉยๆระบบเบรกก็ไม่ได้ร้อนขึ้นเพราะว่าจานดิสเบรกหรือดุมเบรกไม่ได้หมุนผ้าเบรกก็ไม่สึกหรอเพราะว่าล้อไม่หมุนแรงที่ใช้ในการเหยียบก็ไม่มากขนาดจะทำให้ชุมแม่ปั๊มเบรกพังหรือทำให้อายุการใช้งานน้อยลง

          หลายคนที่เปลี่ยนเกียร์ D-N-D-N-D-N อ่านถึงบรรทัดนี้แล้วก็อยากจะเถียงว่าไม่เห็นมีการเปลี่ยนแปลงเลย รถยังคงสามารถขับได้ตามปกติระบบเกียร์ก็ยังปกติดอยู่ แต่พฤติกรรมอย่างนี้จะส่งผลแก่รถคุณในระยะยาวเปรียบเหมือนกับการสูบบุหรี่นั่นแหละ ระบบคลัตช์ของคุณจะลื่นทำให้เวลาออกตัวคุณจะต้องเหยียบคันเร่งมากขึ้นทำให้รอบสูงขึ้น น้ำมันก็เปลืองขึ้นแต่รถกลับไม่ได้วิ่งอย่างนั้นเลยสูงขึ้น น้ำมันก็เปลืองขึ้นแต่รถกลับไม่ได้วิ่งอย่างนั้นเลย

 การใช้เกียร์ออโตเมติค

           ปัจจุบันรถยนต์เกียร์ออโตเมติคได้รับความนิยมมากขึ้นโดยเฉพาะการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรติดขัด เนื่องจากขับขี่ได้ง่ายสะดวกสบายเพราะใช้เพียงคันเร่งและเบรกเท่านั้นคันเกียร์ของเกียร์ออโตเมติคจะมีตำแหน่งสำหรับใช้งานต่าง ๆ กันดังนี้

           ตำแหน่ง P ใช้สำหรับจอดอยู่กับที่หรือบนพื้นที่ลาดเอียงโดยรถจะถูกล็อกให้หยุดอยู่กับที่ด้วยตัวล็อกภายในเกียร์
           ตำแหน่ง R ใช้สำหรับการถอยหลัง
           ตำแหน่ง N ใช้สำหรับการหยุดรออยู่กับที่บนพื้นราบซึ่งในตำแหน่งนี้รถสามารถเข็นให้เคลื่อนที่ได้
           ตำแหน่ง D ใช้สำหรับการขับขี่แบบอัตโนมัติโดยเกียร์จะเปลี่ยนไปเองโดยอัตโนมัติตามคันเร่งและความเร็วของรถ
           ใช้ ขับขี่ได้ตั้งแต่การเริ่มออกตัวและเพิ่มความเร็วได้ไปเรื่อยๆ จนถึงความเร็วสูงสุดการขับขี่โดยทั่วไปสามารถใช้เกียร์นี้เพียงเกียร์เดียวเท่านั้นก็ได้

 หมายเหตุ สำหรับรถที่มีสวิตซ์โอเวอร์ไดร์วซึ่งเป็นอุปกรณ์พิเศษในเกียร์ออโต 4 สปีดบางรุ่น
           เมื่อสวิตซ์โอเวอร์ไดร์วอยู่ที่ตำแหน่ง ON เกียร์ออโตจะสามารถทำงานได้ตั้งแต่เกียร์1 ถึงเกียร์ 4 โดยอัตโนมัติ
           สวิตซ์โอเวอร์ไดร์วอยู่ที่ตำแหน่ง OFF เกียร์ออโตจะทำงานโดยอัตโนมัติได้ตั้งแต่เกียร์1 ถึงแค่เกียร์ 3 เท่านั้น
            ฉะนั้น การปรับสวิตซ์โอเวอร์ไดร์วจากตำแหน่ง ON ไปเป็น OFF จึงเป็นการลดเกียร์จากเกียร์4 มาเป็นเกียร์ 3 เพื่อให้เหมาะกับการเร่งแซงขณะความเร็วสูงและเมื่อปรับสวิตซ์โอเวอร์ไดร์วจากตำแหน่ง OFF ไปเป็น ON  จะทำให้เกียร์ 3 กลับไปเป็นเกียร์ 4 อย่างเดิมทำให้การลดเกียร์เพื่อเร่งแซง หรือเข้าโค้งเป็นไปอย่างคล่องตัวมากขึ้น
            ตำแหน่ง 2 ใช้สำหรับการขับขี่ขึ้นทางลาดชันที่ไม่สูงมากนักและสามารถใช้ความเร็วได้พอสมควร

            ตำแหน่ง L ใช้สำหรับการขับขี่ขึ้นทางลาดชันที่สูงมาก และต้องใช้ความเร็วต่ำ

 หมายเหตุ การสตาร์ทเครื่องยนต์ถูกออกแบบให้สามารถกระทำได้เฉพาะตำแหน่ง P กับ N เท่านั้นเพื่อความปลอดภัย

ขอขอบคุณข้อมูลจากกระทรวงคมนาคม

แชร์