สรรพคุณมากมีดอกปีบหรือกาสะลอง
ดอกปีบกลิ่นหอมของมันช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย บรรเทาความเหนื่อยล้าและเพิ่มความรู้สึกสดชื่นรื่นรมย์ได้ดีแล้ว ยังมีสรรพคุณทางยารักษาโรคได้ด้วย http://winne.ws/n11535
หอม...หอม...หอมจังนี้มันกลิ่นอะไรกันนะ ช่วงปลายฝนต้นหนาว หลายๆท่านคงได้มีโอกาสพบเจอกับเจ้าดอกไม้สีขาวที่บ้างก็ร่วงหล่นอยู่เต็มพื้นถนนบ้างก็บานเป็นช่อสีขาวเด่นอยู่บนต้น จนบางท่านอดใจกับความหอมของมันไม่ได้เจอเมื่อไรเป็นต้องเก็บติดไม้ติดมือมาวางไว้ในบ้าน ในที่ทำงาน หรือในรถเพราะกลิ่นหอมของมันช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย บรรเทาความเหนื่อยล้าและเพิ่มความรู้สึกสดชื่นรื่นรมย์ได้ดีทีเดียว ค่ะเรากำลังพูดถึงดอกปีบดอกไม้สีขาวๆ ก้านยาวๆ และมีกลิ่นหอมฟุ้งงงงง.....
ปีบ(Millingtonia hortensisL.f.) มีชื่อเรียกอื่นๆคือ กาซะลอง, กาดสะลอง, เต็กตองโพ่ และชื่ออังกฤษคือ cork tree, Indian cork tree เป็นพืชในวงศ์ BIGNONIACEAE ปีบเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลางผลัดใบ ลำต้นตรง สูงได้ถึง 25 ม. ใบประกอบแบบขนนก 2-3 ชั้น ใบย่อยรูปไข่แกมรูปหอกปลายใบแหลม ขอบใบหยักเว้า หรือหยักกลมๆ หรือเรียบโคนใบกลมมีต่อมขนอยู่ตรงมุมระหว่างเส้นกลางใบและเส้นใบ ดอกออกเป็นช่อใหญ่ตั้งตรงมีขนสั้นๆ มีกลิ่นหอม ดอกมีสีขาว กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นท่อยาว ออกดอกราวเดือนกันยายนถึงธันวาคมติดผลราวเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ ผลเป็นฝัก ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก สรรพคุณตามตำรายาไทยระบุว่าดอกมีสรรพคุณแก้ริดสีดวงจมูก ช่วยขยายหลอดลม แก้หืด ขับน้ำดี บำรุงกำลังบำรุงเลือด ดอกใส่ปนกับยาไทย มวนสูบทำให้ปากหอม รากใช้รักษาวัณโรค บำรุงปอด แก้หอบแก้ไอ แก้เหนื่อยหอบ และเปลือกช่วยแก้ไอ ขับเสมหะ
สารเคมีที่พบในดอกคือสารในกลุ่มGlycosides คือ scutallerin, scutellarein-5-galactoside, salidroside, 2-phenyl rutinoside, 2-(3,4-dihydroxy phenyl)-ethyl glucoside, acetoside, phenylpropanoid glucosides, p-coumaryl alcohol glucoside, isoeugenol glucoside,cornoside, rengyolone, rengyoside B, rengyol, rengyoside A, isorengyol,millingtonine และสารในกลุ่มFlavanoids คือ scutellarein-5-glucuronide, hispidulin, scutellarein, hortensin, 3,4-dihydroxy-6,7-dimethoxyflavone ที่พบในใบคือ hispidulin, beta-carotene, dinatin, rutinoside ที่พบในผลคือ acetyl oleanolic acid ที่พบในเปลือกต้นคือ sitosterol, สารขมและ tannins ที่พบในรากคือ lapachol, beta-sitosterol, paulownin และสารสำคัญที่นิยมนำมาศึกษาฤทธิ์ขยายหลอดลมและบรรเทาอาการของโรคหอบหืดคือสารhispidulin และ hortensin ซึ่งพบทั้งในส่วนของดอกและใบ
เมื่อไม่นานมานี้มีงานวิจัยทางคลินิกที่พบว่าตำรับยาดอกปีบมีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการของโรคหอบหืดได้โดยการพ่นสารสกัดน้ำจากตำรับยาดอกปีบด้วยเครื่องพ่นออกซิเจนแก่อาสาสมัครชายหญิงที่เป็นโรคหอบหืดจำนวน 30 คน อายุเฉลี่ย 46 ปี วันละ 3 ครั้งครั้งละ 3 มล. ซึ่งแต่ละครั้งจะห่างกัน 15 นาที พบว่าอาสาสมัครมีค่า Peak Expiratory Flow rate (PEFR) ดีขึ้นเกือบ 30% ซึ่งค่าดังกล่าวเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพการทำงานของปอดแสดงให้เห็นว่าตำรับยาพ่นดอกปีบมีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการของโรคหอบหืดได้ และการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาอื่นๆพบว่า ปีบมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ต้านแบคทีเรีย กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านการอักเสบต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องตับจากสารพิษ ขับพยาธิ ฆ่าลูกน้ำยุง และต้านการชักแต่ยังเป็นเพียงการศึกษาในระดับหลอดทดลองและสัตว์ทดลองเท่านั้น
ขอบคุณผู้ค้นคว้าเรียบเรียง ภญ.กฤติยา ไชยนอก สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล www.pharmacy.mahidol.ac.thบทความเผยแผ่ความรู้สู่ประชาชน
เอกสารอ้างอิง
นันทวันบุณยะประภัศร, อรนุช โชคชัยเจริญพร (บรรณาธิการ).หนังสือสมุนไพรไม้พื้นบ้าน เล่ม 2. กรุงเทพฯ : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, 2541.
ปริ่มเฉนียนมุ่งการดี. ปีบ. จุลสารข้อมูลสมุนไพรปีที่ 8 ฉบับที่ 4. 2534:17-19.
Kumari A,Sharma RA. A Review on Millingtonia hortensis Linn. Int J Pharm Sci Rev Res 2013;19(2):85-92.
Nagaraja MS,Paarakh PM. Millingtonia hortensis Linn. - a review. Pharmacologyonline 2011;2:597-602.
SurendraKumar M, Astalakshmi N, Chandran J, Jaison J, Sooraj P, Raihanath T, et al. AReview on Indian cork tree - Millingtonia hortensis linn.F. World Journal ofPharmacy and Pharmaceutical Sciences 2014;3(10):256-71