ผิวสวยใส...ด้วยเบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดา (Baking Soda) มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium Bicarbonate) หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า โซดาทำขนม โดยเบกกิ้งโซดานั้นเป็นเพียงส่วนประกอบที่อยู่ในผงฟู http://winne.ws/n11573
เบกกิ้งโซดา (Baking Soda) เชื่อได้ว่าน่าจะมีทั้งคนที่รู้จัก และคนที่ไม่รู้จัก ซึ่งเบกกิ้งโซดานั้นจะมีลักษณะเป็นผงผลึกสีขาว สามารถนำไปทำประโยชน์ได้หลายอย่าง โดยหลายคนอาจจะกำลังสงสัยว่าเจ้าผงเบกกิ้งโซดาเหมือนกับผงฟู หรือเป็นผงชนิดเดียวกันรึเปล่า เราจะยังไม่ให้คำตอบ แต่จะพาไปทำความรู้จักกับ เบกกิ้งโซดา ให้มากขึ้นว่าผงชนิดนี้นำมาใช้ทำอะไร และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
เบกกิ้งโซดา (Baking Soda) มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium Bicarbonate) หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า โซดาทำขนม โดยเบกกิ้งโซดานั้นเป็นเพียงส่วนประกอบที่อยู่ในผงฟู ไม่ใช่ผงฟู มีลักษณะเป็นผลึกสีขาว มีรสเค็มคล้ายโซเดียมคาร์บอเนต เมื่อทำปฏิกิริยากับน้ำและกรดอ่อนๆ ที่ได้มาจากส่วนผสมต่างๆ ก็จะทำให้เกิดฟองก๊าซขึ้นมา เบกกิ้งโซดาจึงถูกนำมาเป็นส่วนผสมในผงฟูนั่นเอง
ผิวสวยใสด้วยเบกกิ้งโซดา ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดา ที่นิยมนำไปใช้สำหรับการประกอบอาหารจำพวกขนมเบเกอรี่ อีกทั้งถูกนำไปใช้งานหลากหลายด้าน ซึ่งยังได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่รักสวยรักงามสำหรับนำไปใช้เป็นเครื่องประทินผิว ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกบนผิวหน้า เนื่องจากคุณสมบัติที่เหมือนเม็ดบีดส์สครับเนื้อละเอียด ช่วยให้เนียนใสได้ด้วย 2 สูตรที่น่าสนใจต่อไปนี้
1. สูตรเบกกิ้งโซดา มะขามเปียกและน้ำผึ้ง สำหรับสูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้ผิวใส ลดรอยด่างดำ และเพิ่มความชุ่มชื้นด้วยน้ำผึ้ง ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำมะขามเปียกที่คั้นจนเหนียวข้นและน้ำผึ้งอีกเล็กน้อย นำมาคนให้จนส่วนผสมรวมตัวเป็นเนื้อเดียวกัน
พอกลงไปบนผิวหน้าและผิวกายในจุดที่ต้องการ ขัดวนเป็นวงกลมอย่างเบามือประมาณ 5 นาที แล้วทิ้งไว้ 20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเปล่าจนเกลี้ยง แล้วค่อยซับผิวหน้าให้แห้ง โดยไม่จำเป็นต้องล้างด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแต่อย่างใด
2. สูตรเบกกิ้งโซดาและโยเกิร์ต คนที่มีปัญหาเรื่องสิวเสี้ยนบนผิวหน้ามาก แนะนำให้ใช้สูตรเบกกิ้งโซดาผสมกับโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ซึ่งจะมีคุณสมบัติช่วยละลายหัวสิวที่่ผุดขึ้นมาจนทำให้ผิวสัมผัสไม่เรียบเนียน การผสมวัตถุดิบทั้งสองใช้อัตราส่วนเบกกิ้งโซดา 1 ส่วน และโยเกิร์ต 2 ส่วน คนให้เข้ากันแล้วนำไปพอกเอาไว้ให้ทั่วใบหน้า เน้นตรงจุดที่เป็นสิวเสี้ยน ขัดถูเบาๆ เพื่อช่วยกำจัดเอาสิวเสี้ยนที่โผล่ออกมาให้หลุดออกไปมากที่สุด จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที แล้วล้างทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าตามปกติ
ข้อควรระวังในการใช้เบกกิ้งโซดา เนื่องจากเบกกิ้งโซดานั้นเป็นสารเคมีที่เอาไว้ใช้ประโยชน์ด้านต่างๆ รวมไปถึงการทำอาหารด้วย เพราะเบกกิ้งโซดามักเป็นส่วนผสมหนึ่งในการทำเค้ก หรือคุ้กกี้บางสูตรเพื่อให้เกิดความฟู นุ่ม น่ารับประทาน
แต่ขอเตือนเอาไว้เลยว่าควรใส่แต่เพียงเล็กน้อย เพื่อให้เจ้าผงชนิดนี้เข้าไปทำปฏิกิริยากับส่วนผสมอื่นๆ เพียงเท่านั้น หากใส่มากจนเกินไปจะทำให้มีรสชาติของสารเคมี ขนมดูไม่อร่อย
หรือหากนำผงเบกกิ้งโซดาไปใช้ล้างสารเคมีในผักและผลไม้ก็ไม่ควรใช้เยอะจนเกินไป เพราะเบกกิ้งโซดาจะเข้าไปกัดผิวของผักและผลไม้ หากใส่มากเกินไปสารเคมีเหล่านี้ก็จะแทรกซึมลงไปเนื้อ เมื่อนำมาปรุงอาหาร หรือรับประทานเปล่าก็จะมีรสชาติที่ไม่อร่อย อีกทั้งหากรับประทานเข้าไปมากๆ ก็อาจสะสมในร่างกายโดยที่เราไม่รู้ตัว
ทีนี้ก็รู้แล้วว่า ผงเบกกิ้งโซดา และ ผงฟู เป็นผงคนละชนิดกัน แต่ก็มีประโยชน์ในการใช้งานที่ใกล้เคียงกัน เพราะฉะนั้นต้องแบ่งแยกให้ออก ส่วนเรื่องของการนำเบกกิ้งโซดามาประกอบอาหาร หรือใช้ในครัวก็สามารถทำได้ เพียงแต่ต้องไม่ทำเกินกว่าที่รายละเอียดกำหนดเอาไว้ เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย และไม่ให้เกิดรสชาติและกลิ่นหอมๆ ของอาหารนั้นเปลี่ยนแปลงเกินไป
ขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.thailovehealth.com/care/health-19149.html