กรีกโยเกิร์ตต่างกับโยเกิร์ตธรรมดาอย่างไร??

โยเกิร์ต คือ ผลิตภัณฑ์จากนมซึ่งเกิดจากการหมักระหว่างนม และโปรไบโอติกส์(แบคทีเรียดีๆ ที่ยังมีชีวิต) เมื่อกินเข้าไปแบคทีเรียเหล่านี้จะไปสร้างความสมดุลให้จุลินทรีย์ที่อยู่ประจำในลำไส้ ช่วยปรับสมดุลของระบบการขับถ่าย และช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นอีกด้วย http://winne.ws/n11706

5.5 พัน ผู้เข้าชม
กรีกโยเกิร์ตต่างกับโยเกิร์ตธรรมดาอย่างไร??ขอขอบคุณภาพจากWomen TrueLife

โยเกิร์ต     คือ ผลิตภัณฑ์จากนมซึ่งเกิดจากการหมักระหว่างนม และโปรไบโอติกส์(แบคทีเรียดีๆ ที่ยังมีชีวิต) เมื่อกินเข้าไปแบคทีเรียเหล่านี้จะไปสร้างความสมดุลให้จุลินทรีย์ที่อยู่ประจำในลำไส้ ช่วยปรับสมดุลของระบบการขับถ่าย และช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นอีกด้วย 

ประเภทของโยเกิร์ต 

ในท้องตลาดมีโยเกิร์ต 3 แบบ หลักๆ ด้วยกัน 

1. โยเกิร์ตธรรมดา หรือ plain yogurt(ไม่รวมกรีกโยเกิร์ต) หมายถึง โยเกิร์ตที่มีส่วนผสมอยู่ 2 อย่าง คือ milk และ bacterial cultures 

2. กรีกโยเกิร์ต มีส่วนผสม 2 อย่าง คือ milk และ bacterial cultures ซึ่งจริงๆ แล้วก็คือ plain yogurt ชนิดหนึ่งที่ถูกดูดน้ำและเวย์(ของเหลวที่ประกอบไปด้วยโปรตีนและแล็กโทส) ออก จึงเป็นโยเกิร์ตที่เข้มข้นกว่าเดิม จึงมีสารอาหารและโปรไบโอติกส์มากขึ้นด้วย เช่น กรีกโยเกิร์ตหนึ่งถ้วยจะมีโปรตีนมากกว่าแบบธรรมดาถึงเท่าตัว 

3. โยเกิร์ตขนมหวาน หมายถึง โยเกิร์ตที่ส่วนผสมมากกว่า 2 อย่าง นอกเหนือ ไปจาก นม และแบคทีเรีย ซึ่งรวมไปถึงพวก gum, starch, thickener ทั้งหลาย และยังรวมไปถึงน้ำตาล น้ำเชื่อม ผลไม้เชื่อม และอื่นๆ 

โปรไบโอติกส์สำคัญอย่างไร 

จากที่กล่าวไปแล้วว่าในโยเกิร์ตนั้นเต็มไปด้วยโปรไบโอติกส์ ซึ่งเป็นแบคทีเรียจำพวกแล็กโตบาซิลลัส หรืออะซิโดฟีลัสที่มีประโยชน์ในการช่วยป้องกันการติดเชื้อรา หรือเชื้อยีสต์บริเวณช่องคลอด ส่งเสริมภูมิคุ้มกัน มีการศึกษามากมาย ชี้ว่าการกินโยเกิร์ตทุกวันจะช่วยป้องกันการติดเชื้อในร่างกาย ดังนั้น โปรไบโอติกส์สำคัญมากๆ เพราะมันช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันไปจนถึงระดับเซลล์ ซึ่งจะปกป้องคุณจากไวรัส ปรสิต และมะเร็ง จะได้มีชีวิตยืนยาวยิ่งขึ้น แถมยังช่วยป้องกันแผลในกระเพาะ แล็กโตบาซิลลัสจะช่วยหยุดยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ H.Pylori ซึ่งเป็นสาเหตุของแผลในกระเพาะกว่า 90% 

เปรียบเทียบกันระหว่าง กรีกโยเกิร์ต กับ โยเกิร์ตธรรมดา ในปริมาณที่เท่ากัน พบว่า 

กิร์ต

 โปรตีน : กรีกโยเกิร์ตให้โปรตีนสูงกว่าแบบธรรมดาเกือบเท่าตัว ทำให้กินแล้วอิ่มเร็วกว่า แน่นท้องมากกว่า เหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก และควบคุมอาหารเป็นอย่างมากทีเดียว 

คาร์โบไฮเดรต : กรีกโยเกิร์ตมีปริมาณแป้งและน้ำตาลต่ำกว่าโยเกิร์ตแบบธรรมดาประมาณ 1/3 เพราะเวลากรองเอาน้ำออก(“น้ำ” ที่ว่านี้จะมีพวก milk sugar และ lactose ทำให้ปริมาณแป้งและน้ำตาลถูกกรองทิ้งออกไปด้วยนั่นเอง) จึงเหมาะกับคนที่มีอาการแพ้นม และสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน หรือกำลังควบคุมน้ำตาล กรีกโยเกิร์ต ถือเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม 

โซเดียม : กรีกโยเกิร์ตมีปริมาณโซเดียมประมาณครึ่งนึงของโยเกิร์ตธรรมดา ซึ่งก็เหมาะกับคนที่ต้องการควบคุมโซเดียม โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคความดันสูง 

แคลเซียม : กรีกโยเกิร์ตจะมีแคลเซียมต่ำกว่าโยเกิร์ตแบบธรรมดาราว 2/3 ข้อนี้ดูว่าจะแพ้โยเกิร์ตธรรมดาอยู่สักหน่อย 

คลอเรสเตอรอล : เนื่องจากกรีกโยเกิร์ตเข้มข้นกว่า จึงทำให้มีปริมาณ cholesterol สูงกว่าตามไปด้วย ยกเว้นแต่ว่ากินแบบ 0% ซึ่งจะไม่มี cholesterol 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก 

www.oknation.net/blog/kanis/2012/09/10/entry-1 www.bloggang.com/viewdiary.php?id=phoebe&month=03-2012&date=16&group=27&gblog=15 

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก : 

www.101cookbooks.com/archives/mastokhiar-yogurt-dip-recipe.html www.weightwatchers.com/util/art/index_art.aspx?tabnum=1&art_id=110411 http://www.todayhealth.org/food-health/.html

กรีกโยเกิร์ตต่างกับโยเกิร์ตธรรมดาอย่างไร??กรีกโยเกิร์ตพาร์เฟต์ จาก Health and Trend
แชร์