สื่อสิงคโปร์เผย!1หญิง3ชาย ทายาทเศรษฐีเมืองไทย กับกรณีอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ก.ม.ทำอะไรไม่ได้
รศ.นิติกล่าวว่า ในไทยจะมีมุกตลกที่บอกว่า สำหรับประเทศไทย หนังสือแนะนำวิธีการต่าง ๆไม่ใช่เรื่องจำเป็น แต่การรู้จักคน (มีอิทธิพล) หรือการมีเส้นสายสำคัญกว่า http://winne.ws/n14819
สื่อสิงคโปร์รวบรวมคดีลูกคนรวยในไทย ที่ขับรถชนคนเสียชีวิต แต่กลับไม่ได้รับบทลงโทษที่เหมาะสม
สำนักข่าว เอเชีย วัน สื่อสิงคโปร์รายงานว่าลูกคนรวยที่ขับรถชนคนเสียชีวิต แต่กลับไม่ถูกดำเนินคดีใด ๆ ในไทยมีอยู่หลายคดี แต่เพิ่งกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่นายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดงไม่ยอมไปขึ้นศาลเพื่อรับฟังการแจ้งข้อกล่าวหาจากการขับรถชนแล้วหนีเมื่อปี 2012 จนบางคดีใกล้หมดอายุความแล้ว
เอเชีย วันได้ถามความเห็นของรองศาสตราจารย์นิติ ภวัครพันธุ์ อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยรศ.นิติกล่าวว่า ในไทยจะมีมุกตลกที่บอกว่า สำหรับประเทศไทย หนังสือแนะนำวิธีการต่าง ๆไม่ใช่เรื่องจำเป็น แต่การรู้จักคน (มีอิทธิพล) หรือการมีเส้นสายสำคัญกว่า
รศ.นิติระบุว่า คนรวยในไทยสามารถบิดพลิ้วกระบวนการยุติธรรมได้ เพราะการดำเนินคดีในชั้นศาลจะใช้เวลายาวนานหลายปี ซึ่งคนรวยมีเงินจ้างทนายที่ดีที่สุด และพวกเขาก็ยินดีที่คดีจะถูกลากยาวไปเป็น 20 ปี
คดีของนายวรยุทธทำให้หลายคนนำไปเปรียบเทียบกับคดีของนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ที่ถูกตัดสินจำคุก 3 ปี 2 เดือนเมื่อปี 2013 จากการขับรถชนคนขับจักรยาน และแม้เธอจะเป็นผู้บริสุทธิ์ก็กลับต้องถูกจำคุกไปถึง 18 เดือน ก่อนจะได้รับการอภัยโทษในเดือนเมษายนปี 2015 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เอเชีย วันได้รวบรวมคดีลูกคนรวยขับรถชนคนตายไว้ดังนี้
1. นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทบริษัทกระทิงแดง
เมื่อ ปี 2012 นายวรยุทธขับรถเฟอร์รารีชนตำรวจเสียชีวิต และไม่ยอมหยุดรถ ลากผู้เสียชีวิตต่อไปอีกราว 100 เมตร ก่อนหลบหนีไป เขาถูกตั้งข้อหา 3 ข้อหา ซึ่งหากนายวรยุทธถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง อาจทำให้เขาต้องรับโทษจำคุกมากกว่า 10 ปี
แม้จะมีหลักฐานชัดเจนว่า นายวรยุทธหรือบอสมีความผิดจริง แต่ช่วง 4 ปีครึ่งที่ผ่านมาเขากลับเดินทางไปไหนมาไหน ท่องเที่ยวไปทั่วโลกกับครอบครัวและเพื่อนฝูงได้อย่างสะดวกจนล่าสุดย้ายออกจากที่พักในกรุงลอนดอนของอังกฤษแล้ว หลังถูกผู้สื่อข่าวเอพีบุกถึงบ้าน เพื่อสอบถามเกี่ยวกับคดี
2. นายกันฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ หรือ หมูแฮม ลูกชายของนายกัณฑ์เอนก ปัจฉิมสวัสดิ์ และนางสาวิณี ปะการะนัง อดีตนางสาวไทย
เมื่อปี 2007 นายกัณฑ์พิทักษ์ขับรถเบนซ์เฉี่ยวรถประจำทาง ก่อนหยิบก้อนหินทุบหน้าคนขับรถประจำทาง และขับรถเบนซ์พุ่งชนผู้โดยสารบนทางเท้า มีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บอีกหลายคน โดยทนายความของเขาบอกว่า นายกัณฑ์พิทักษ์ ซึ่งมีอายุ 20 ปีในขณะนั้นมีปัญหาด้านสุขภาพจิต จนศาลตัดสินจำคุกเขา 2 ปี และให้เขาจ่ายเงินค่าชดเชยให้กับครอบครัวของเหยื่อ 2 ล้านบาท
3. นางสาวอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ลูกสาวอดีตนายทหาร และน้องสาวของนายณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา พระเอกละคร
เมื่อปี 2010 นางสาวอรชร ซึ่งขณะนั้นอายุ 16 ปี อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ทำใบอนุญาตขับขี่ขับรถซีวิคเบียดรถตู้บนโทลเวย์ดอนเมืองจนพลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บอีกหลายคน หลังเกิดเหตุมีคนถ่ายภาพเธอใช้โทรศัพท์อย่างใจเย็น ซึ่งทำให้เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากนั้นเธอถูกตัดสินว่าขับรถยนต์โดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และขับรถโดยประมาทจนทำให้มีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บ และถูกห้ามขับรถจนถึงอายุ 25 ปี นอกจากนี้ เธอต้องจ่ายค่าชดเชยให้เหยื่อจำนวน 27 ล้านบาทด้วย
4. นายเจนภพ วีรพร ทายาทเลนโซกรุ๊ป
ปี 2016 ที่ผ่านมา นายเจนภพขับรถเบนซ์พุ่งชนรถรถฟอร์ดบนถนนไฮเวย์อยุธยา จนไฟลุกไหม้รถยนต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย โดยที่นายเจนภพบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย และปฏิเสธที่จะตรวจระดับแอลกอฮอลและสารเสพติด นอกจากนี้ ยังมีคนเผยแพร่ภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่นายเจนภพขับรถชนไม้กั้นทางอีซี พาส เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนขับรถชนคนเสียชีวิต
นายเจนภพถูกตั้งข้อ หา 7 ข้อหาทั้งฆาตกรรมและขับขี่ขณะมึนเมา ส่วนญาติก็เรียกร้องค่าชดเชยเป็นเงิน 100 ล้านบาท แต่ทนายความของเขาโต้แย้งว่า สุขภาพจิตของนายเจนภพไม่เหมาะสมกับการดำเนินคดีตามกระบวนการมาตรฐาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : http://news.voicetv.co.th/thailand/479733.html