อันตราย!จากการกินหวานมากเกินไป

ภาวะเลือดเป็นกรด ซึ่งเกิดจากร่างกายเรามีน้ำตาลเชิงเดี่ยวจากน้ำตาลทราย น้ำผึ้ง ผลไม้ หรือน้ำตาลที่ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มต่างๆ วิ่งเข้าสู่กระแสเลือดเป็นจำนวนมากจนทำให้เลือดมีสภาวะเป็นกรดทำให้เกิดการอ่อนเพลียหมดเรี่ยวหมดแรง http://winne.ws/n16098

2.3 พัน ผู้เข้าชม
อันตราย!จากการกินหวานมากเกินไป

ความหวานที่ใคร ๆ ก็ชอบ แต่ถ้าทานมาก ๆ หรือทานบ่อย ๆ ความหอมหวานที่เราโปรดปรานกลับทำลายสุขภาพเรา ใครที่ชอบทานหวานลองอ่านดูก่อนจะสูญเสียสุขภาพที่ดีไป

มาดูโทษและภัยที่เกิดจากการทานหวานมากเกินไปกันค่ะ

1.  ภาวะเลือดเป็นกรด ซึ่งเกิดจากร่างกายเรามีน้ำตาลเชิงเดี่ยวจากน้ำตาลทราย น้ำผึ้ง ผลไม้ หรือน้ำตาลที่ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มต่างๆ วิ่งเข้าสู่กระแสเลือดเป็นจำนวนมากจนทำให้เลือดมีสภาวะเป็นกรดทำให้เกิดการอ่อนเพลียหมดเรี่ยวหมดแรง ลองสังเกตดูจากคนที่ทานข้าวแล้วจะตบท้ายด้วยขนมหวานเสมอๆ จนติดเป็นนิสัย คนที่ชอบทานขนมหวานพร้อมเครื่องดื่มประเภทที่มีส่วนผสมของน้ำตาลมากๆ เช่นชานม กาแฟเย็น หรือสมู๊ทตี้ต่างๆ

อันตราย!จากการกินหวานมากเกินไป

2. คนที่ชอบกินของหวานมากเกินไปมักจะมีอารมณ์เสีย ขี้หงุดหงิด ขี้โมโห

อันตราย!จากการกินหวานมากเกินไป

 2. คนที่ชอบกินของหวานมากเกินไปมักจะมีอารมณ์เสีย ขี้หงุดหงิด ขี้โมโห เพราะการมีน้ำตาลในเลือดมากทำให้ตับอ่อนต้องทำงานหนัก และขับอินซูลินออกมามากเกินไป เมื่อมีอินซูลินในสมองมาก เราจะเครียด จนกลายเป็นคนโมโหง่าย ควบคุมอารณ์และสติไม่ค่อยได้

3. การกินของหวานมากเกินไปจะทำให้เป็นโรคติดเชื้อได้ง่ายขึ้น เพราะน้ำตาลคืออาหารของเชื้อโรค ดังนั้นคนที่มีน้ำตาลในเลือดหรือในร่ายกายมากเกินไปจะทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ สังเกตได้ง่ายๆ จากคนเป็นโรคเบาหวานนั่นแหละจ้า

อันตราย!จากการกินหวานมากเกินไป

ผลพวงมาจากข้อสองนั่นเอง คืออาจทำให้มีอาการปวดหัวเรื้อรัง เป็นไมเกรน

อันตราย!จากการกินหวานมากเกินไป

4. มันเป็นผลพวงมาจากข้อสองนั่นเอง คืออาจทำให้มีอาการปวดหัวเรื้อรัง เป็นไมเกรน สิวขึ้นและหายช้า เกิดแผลพุพอง มักจะเป็นตะคริวเวลามีประจำเดือน มีโอกาสพัฒนาไปเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง วัณโรค โรคหัวใจ และมะเร็งตับได้ตลอดเวลา

อ่านแล้วคิดว่าอย่างไรบ้างคะ ถ้าเป็นเราก็คงจะเลิกยากนะ แต่เมื่อรู้ถึงผลเสียขนาดนี้เราก็อาจจะปรับพฤติกรรมด้วยการกินของหวานให้น้อยลง หรือหากทำของหวานกินเองที่บ้านก็อาจจะลดน้ำตาลให้น้อยลง และที่สำคัญอย่าลืมออกกำลังกายด้วยล่ะ อย่างน้อยก็ช่วยลดอัตราเสี่ยงลงได้บ้างค่ะ

เรามาลดความหวานของอาหารแต่เพิ่มความหวานในบุคลิกภาพและคำพูดกันดีกว่านะคะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เพจนานาสาระเพื่อสุขภพ

ภาพจากwww.google.co.th

แชร์