ทำไมคนที่เส้นเลือดในสมองแตกมักเกิดในห้องน้ำหรือเวลาอาบน้ำ!!
มาดูสาเหตุและวิธีป้องกันที่ถูกต้อง... http://winne.ws/n18471
การอาบน้ำ เป็นกิจวัตรประจำวันที่เรา ๆ ท่าน ๆ ปฏิบัติกันมาตั้งแต่เกิดหลายคนใช้การอาบน้ำเป็นการผ่อนคลายความเหนื่อยเมื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันแต่อีกหลายคนใช้การอาบน้ำเพียงเพื่อชำระล้างร่างกาย
แต่เชื่อไหมว่าการอาบน้ำยังมีอะไรมากกว่าที่คิด เพราะการอาบน้ำนอกจากจะเป็นการทำความสะอาดร่างกายแล้วยังจะเป็นการกระตุ้นเลือดภายในร่างกายให้ไหลเวียนได้ดีขึ้นด้วย ที่สำคัญยังมีผลต่อการเกิดโรคเส้นเลือดในสมองแตกอีกด้วย
เคยสงสัยหรือไม่ว่า “ทำไมคนที่เส้นเลือดในสมองแตกถึงมักเกิดในห้องน้ำหรือเวลาอาบน้ำ”
สาเหตุ
บางคนเข้าห้องอาบน้ำปุ๊ปก็เปิดน้ำสระที่หัวหรือผมก่อนเลย ทำให้ร่างกายต้องปรับอุณหภูมิเร็วมากเลือดจะขึ้นไปที่สมองอย่างเร็ว ทำให้เส้นเลือดแตกได้ และผลก็คือเส้นเลือดในสมองแตกและลื่นหกล้มนั่นเอง
วิธีอาบน้ำที่ถูกต้อง
1. อาบน้ำโดยล้างจากเท้าขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงหัวเป็นส่วนสุดท้าย เพราะหัวใจหลักอยู่ที่ "อุณหภูมิ" ของน้ำที่จะเป็นตัวกระตุ้นการทำงานของต่อมต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้ระบบการไหลเวียนของโลหิตระบบการหายใจทำงานได้อย่างดีมีประสิทธิภาพ และร่างกายปรับตัวได้ทัน
– น้ำอุ่น หรือน้ำที่มีอุณภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 27-34 องศาเซลเซียส หรือไม่ควรอุ่นเกินอุณหภูมิของร่างกาย 2องศา จะทำให้ร่างกายสะอาดมากที่สุด เพราะความอุ่นของน้ำจะเข้าไปเปิดรูขุมขนทำให้ผิวหายใจได้มากขึ้น ขับของเสียที่คั่งค้างอยู่ตามผิวได้มากขึ้นและยิ่งถ้าได้อาบน้ำอุ่นก่อนนอนก็จะเป็นผลดีต่อสุขภาพ เพราะจะทำให้นอนหลับสบายได้ดียิ่งขึ้น
– น้ำร้อน หรือน้ำที่มีอุณหภูมิประมาณ 38-40 องศาเซลเซียส ไม่ควรอาบบ่อย และควรควบคุมไม่ให้อยู่นานเกิน 10-15นาที เพื่อป้องกันผิวแห้งจากการสูญเสียน้ำมันบนผิวหนังยังทำให้หัวใจต้องทำงานมากขึ้นในการขยายเส้นเลือดเพื่อจะช่วยให้ร่างกายเย็นลง
– น้ำเย็น หรือน้ำที่มีอุณหภูมิประมาณ 21-27 องศาเซลเซียส จะทำให้ผิวเย็นสบาย สดชื่น เต่งตึงลดอาการอ่อนเพลียปลุกเร้าประสาทสัมผัส ทำให้กล้ามเนื้อสดชื่น และยังเป็นผลดีต่อระบบการหายใจหลังอาบน้ำใช้ฝ่ามือตบเบา ๆ ทั้งตัว เพื่อกระตุ้นเซลล์ผิวและยังเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้อีกด้วย
2. การอาบน้ำแบบแช่ในอ่างอาบน้ำสามารถเติมน้ำมันหอมระเหยลงไปเพื่อช่วยในการผ่อนคลายและควรผสมเกลือลงไปในน้ำด้วยเพื่อกระตุ้นระบบการเผาผลาญของร่างกายให้ทำงานดีขึ้น
หลังจากแช่ตัวแล้วควรล้างตัวอีกครั้งด้วยน้ำเย็นหากใช้ฝักบัวก็ควรจะเปิดน้ำให้แรงและฉีดวนลงบนผิวไล่จากเท้าขึ้นมาหน้าท้อง มือ แขนจนมาถึงหัวใจ น้ำเย็นจะช่วยกระชับรูขุมขนเร่งให้เกิดการไหลเวียนของโลหิตได้ดียิ่งขึ้นและยังสามารถลดเซลลูไลต์และชะล้างพิษบนผิวออกได้อีกด้วย
3. ใช้ฝ่ามือหรือผ้าหยาบ ใยบวบ ฯลฯ ถูให้ทั่วตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า เริ่มจากเบาๆ และค่อยๆเพิ่มน้ำหนักแรงขึ้นไปเรื่อยๆ
4. เวลาที่เหมาะสมสำหรับการอาบน้ำ คือก่อนรับประทานอาหาร 1 ชั่วโมงแต่ถ้าจะอาบหลังมื้ออาหารก็ควรจะเว้นระยะสัก 2-3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการจุกเสียดที่อาจเกิดขึ้นได้
การอาบน้ำไม่ใช่เรื่องยากและไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด เมื่อทราบวิธีการอาบน้ำอย่างถูกวิธีแล้ว อย่าลืมนำไปใช้และบอกต่อนะคะ...
ขอขอบคุณ : amazingthingsthai