ผัดผักแบบนี้!นอกจากไม่มีประโยชน์ยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกนะ
การประกอบอาหาร ถ้าทำผิดวิธีอาหารที่เราคิดว่ามีประโยชน์กับก่อเกิดโทษต่อร่างกายเสี่ยงเกิดโรคร้ายตามมา http://winne.ws/n20769
ในการประกอบอาหารหรือทำกับข้าวแต่ละอย่าง หากไม่รู้วิธีการถนอมคุณค่าอาหารแล้ว อาจเสี่ยงต่อการเกิด “มะเร็ง” โดยที่คุณไม่รู้ตัวมาก่อนเลยก็ได้ อย่างเช่น วิธีการ “ผัดผัก” ซึ่งเป็นเมนูง่าย ๆแต่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าเสี่ยงเป็น “มะเร็ง” สูงมากหากทำเช่นนี้
1. ล้างผักหลังจากหั่นเสร็จแล้ว ผักที่หั่นแล้วเวลานำไปล้างบนพื้นผิวที่สัมผัสกับน้ำจะมีคุณวิตามิน แร่ธาตุมากกว่าตอนที่ยังไม่ได้หั่นทำให้แร่ธาตุบางชนิด วิตามินบีและซีบางส่วนละลายไปกับน้ำ หรือบางทีสารพิษที่มีมากมายก็จะละลายเข้าผักได้มากขึ้น วิธีการทำที่ถูกต้องคือควรจะค่อยๆ ล้างผักให้สะอาดและสะเด็ดน้ำให้แห้งก่อนนำไปหั่น และที่สำคัญก็คือผักที่หั่นเสร็จแล้วควรจะนำไปประกอบอาหารในทันทีหรือไม่ควรทิ้งไว้นานกว่า 2 ชม. ไม่อย่างนั้นจะทำให้สารอาหารที่อยู่ในผักสูญเสียไปเพราะออกซิเดชันกับอากาศ
2. รอมีควันขึ้นค่อยใส่ผัก การรอให้น้ำมันร้อนจนควันขึ้นมาแล้วค่อยใส่ผักลงไปผัดนั้น หมายถึงการนำผักลงไปผัดในอุณหภูมิที่มีน้ำมันสูงกว่า 200 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้สูญเสียสารอาหารและจำนวนแร่ธาตุในผักแถมยังทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง วิธีการที่ถูกต้องควรจะใส่วัตถุดิบทุกอย่างลงไปก่อนที่น้ำมันจะมีควันขึ้นมา
3. ใส่น้ำมันเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันประเภทไหนก็ตามจะมีปริมาณไขมันมากกว่า 98% ความสามารถในการดูดซับน้ำมันของผักนั้นสูงกว่าเนื้อสัตว์มาก ถ้าหากเราใส่น้ำมันมากเกินไปเวลาผัดผักก็จะทำให้พื้นผิวของผักนั้นเคลือบเต็มไปด้วยน้ำมัน รสชาติของเครื่องปรุงที่ใส่ลงไปนั้นจะไม่เข้าไปในผักแถมยังทำให้ร่างกายของเราดูดซึมแร่ธาตุและสารอาหารจากผักได้น้อยลงมาก วิธีที่เหมาะสมคือเวลาผัดผักไม่ควรใส่น้ำมันเกินกว่า 1 ช้อนโต๊ะ
4. ใส่เครื่องปรุงที่มีส่วนประกอบของเกลือเยอะมากเกินไป ในซีอิ้วมีส่วนประกอบของเกลือ 15-20 % ในผงปรุงรสจะมีส่วนประกอบของเกลือ 10 % ถ้าหากใส่เครื่องปรุงเหล่านี้แล้วก็ไม่ควรใส่เกลือหรือน้ำปลามากจนเกินไป เพราะมันจะทำให้ปริมาณโซเดียมในอาหารสูงมากเกินไป
วิธีผัดผักนี้เช่นนี้จะทำให้สารอาหารในผักสูญเสียไป และถ้าหากเราทำเป็นประจำอาจจะทำให้มีผลเสียต่อสุขภาพของคุณอีกด้วยนะคะ ดังนั้นเปลี่ยนวิธีการปรุงอาหารใหม่ให้ได้ความอร่อยและคุณค่าอาหารที่ดีต่อสุขภาพกันนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก เพจเมนู สุขภาพ
ภาพจาก www.google.co.th