บุญปนบาป

...คนที่โกงเขามาทำบุญ แม้ว่าเจตนาอยากได้บุญ และพระภิกษุผู้รับก็ถือศีลเคร่งครัด ไม่รู้ด้วยว่าคนถวายไปโกงเขามา ถึงอย่างนั้นก็ขาดไปอีก 2 ส่วน เวลากรรมส่งผล ได้อะไรมาก็ขาดๆ วิ่นๆ ใช้ได้ประเดี๋ยวประด๋าว ก็ถูกเขาชิงไปเสียแล้ว มันเป็นบุญปนบาป .. http://winne.ws/n26327

1.5 พัน ผู้เข้าชม
บุญปนบาป

   บุญปนบาป

 คำถาม :

     คนที่โกงเงินเขามา แล้วเอาเงินส่วนหนึ่งไปทำบุญ  ผลบุญจะเกิดแก่คนผู้นั้นหรือไม่?


 หลวงพ่อ :

     การทำบุญที่จะได้ผลบุญ  ต้องประกอบด้วยองค์  4 ประการ คือ

     1. วัตถุบริสุทธิ์ 

          คือไม่ได้โกงใครมา  คำถามนี้พอเริ่มต้นที่วัตถุก็โกงเขามาเสียแล้ว  เพราะฉะนั้นวัตถุไม่บริสุทธิ์  บุญในส่วนนี้จึงไม่ได้

     2. เจตนาบริสุทธิ์ 

          ถึงแม้วัตถุบริสุทธิ์ ไม่ได้ขโมยใครมา  แต่ที่เอาไปทำบุญ  ไม่ใช่เพราะอยากได้บุญ  แต่อยากจะได้ประโยชน์จากเขา  เช่น  ถวายของให้เจ้าอาวาสเพื่อประจบจะได้ฝากลูกเข้าทำงานในบริษัทของโยมอุปัฏฐากของท่าน  อย่างนี้ก็ไม่ได้บุญ  เพราะเจตนาไม่บริสุทธิ์  เท่ากับติดสินบนเชียวนะ

     3. ผู้ให้บริสุทธิ์

          คือตัวผู้ทำบุญมีศีลตามเพศภาวะของตน  คือเป็นฆราวาสก็ต้องมีศีล 5  คำถามนี้บอกว่าไปโกงเขามา  เพราะฉะนั้นศีลข้อ 2 ก็ขาดไปแล้ว  บุญส่วนนี้จึงไม่ได้

     4. ผู้รับมีศีล

          ถ้าพระภิกษุผู้รับทานรักษาศีล 227ข้อได้กะพร่องกะแพร่ง  หรือผู้รับเป็นขอทานขี้เมา  ซ้ำอาจติดยาเสพติดอีกต่างหาก  บุญที่ผู้ทำทานควรจะได้ก็ตกๆ หล่นๆ ไป  เพราะไม่รู้จักเลือกเนื้อนาบุญ

 

     ถ้าการทำบุญไม่ครบองค์ประกอบทั้ง 4 ข้อ  อานิสงส์ที่ได้ก็ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย

     คนที่โกงเขามาทำบุญ แม้ว่าเจตนาอยากได้บุญ  และพระภิกษุผู้รับก็ดีเหลือเกิน  ถือศีลเคร่งครัด  ไม่รู้ด้วยว่าคนถวายไปโกงเขามา  ถึงอย่างนั้นก็ขาดไปอีก 2 ส่วน  เวลากรรมส่งผล ได้อะไรมาก็ขาดๆ วิ่นๆ ใช้ได้ประเดี๋ยวประด๋าว  ก็ถูกเขาชิงไปเสียแล้ว  มันเป็นบุญปนบาป  และให้จำไว้นะว่าทั้งบุญและบาป  ไม่อาจหักล้างกันได้  ทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็รอจังหวะส่งผลกันอยู่ สุดแต่ว่าฝ่ายไหนแรงมากกว่า ฝ่ายนั้นก็ส่งผลก่อน

     ทางที่ดีเมื่อจะทำบุญควรเป็นบุญล้วนๆ  คือครบองค์ประกอบทั้ง 4 ข้างต้นนั่นแหละ  และทำให้สม่ำเสมอ  อย่าเปิดโอกาสให้บาปเก่าๆ ในชาติก่อนๆ  ส่งผลได้เป็นอันขาด ชีวิตของเราจะได้มีความสุขราบรื่นตลอดไป.

 

แชร์