เป็นที่รู้จักกันดีกับหุ่นยนต์อะซิโม (ASIMO) นวัตกรรมล้ำยุคจากฮอนด้าที่นักวิจัยด้านหุ่นยนต์ทั่วโลกต่างให้การยอมรับว่า นี่คือหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ (Humanoid) 

ที่เจ๋งที่สุดในขณะนี้ อะซิโมเกิดวันที่ 21 ตุลาคม ปี 2000 แต่ก่อนจะถือกำเนิดขึ้นนั้น ทางทีมวิจัยของฮอนด้าต่างทุ่มแรงกายแรงใจเพื่อปลุกปั้นเจ้าอะซิโมอยู่ถึง 14 ปีเต็ม 

และกว่าจะพัฒนามาเป็นอะซิโมที่มีขีดความสามารถสูงอย่างเช่นปัจจุบันนี้ ก็ได้ผลิตหุ่นยนต์ต้นแบบมากถึง 9 รุ่น โดยปัจจุบันอะซิโมถือว่าเป็นหุ่นยนต์ที่ถูกดีไซน์มาให้มีรูปร่างและความสามารถเหมาะสมที่สุดที่จะช่วยเหลือมนุษย์ 

โดยเฉพาะคนแก่หรือคนพิการที่มีความสามารถทางกายภาพจำกัด ด้วยน้ำหนักเพียง 54 กิโลกรัมและสูงเพียง 130 เซนติเมตร อะซิโมจึงเป็นหุ่นยนต์จิ๋วแต่แจ๋ว มากด้วยความสามารถที่คล้ายคนเข้าไปทุกที และนี่คือสิ่งที่อะซิโมทำได้…

1. ทักทาย

ด้วยกล้องที่บริเวณดวงตาและระบบเซนเซอร์ที่ทำให้จดจำและแยกแยะวัตถุ รวมไปถึงใบหน้าคนได้ อะซิโมสามารถรับรู้ว่าคุณคือคนและเริ่มต้นทักทายคุณได้ เริ่มต้นจากโบกมือง่ายๆ…

ทักทายด้วยภาษาใบ้ก็ได้ เพราะข้อต่อที่นิ้วจึงทำให้นิ้วของอะซิโมสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ

ไปจนถึงบอกรัก

และขอโทษได้ด้วย

2. เป็นทูตสันถวไมตรี

เพราะอะซิโมถูกออกแบบมาให้ดูน่ารัก เป็นมิตร และมีบุคลิกเหมือนเด็กซื่อไร้เดียงสา จึงกลายมาเป็นทูตสันถวไมตรีผู้เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เคยต้อนรับคนดังอย่างประธานาธิบดีเยอรมนี

ถวายการต้อนรับควีนมาร์กาเร็ตแห่งเดนมาร์ค

หรือกระทั่งไปเป็นแขกรับเชิญในรายการทีวี

3. ชิลๆก็ได้

เพราะอะซิโมมีระบบสั่งการแบบคะเนความเคลื่อนไหวแบบเรียลทาม ทำการคำนวณแรงโน้มถ่วงได้รวดเร็ว มันจึงสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่ว่าจะเวลาพักผ่อนอย่างนอนเอกขเนก

หรือนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ชิลๆ

4. เล่นกีฬา

ความพิเศษของอะซิโมที่ไม่มีหุ่นยนต์ตัวไหนเทียบได้ ก็คือข้อต่อทั่วร่างกายถึง 34 จุด ที่ช่วยให้เคลื่อนไหวได้อย่างลื่นไหลคล้ายคน ไม่มีชะงักหรือติดขัด แถมยังวิ่งได้เร็วถึง 3 กม.ต่อชั่วโมง

คล่องแคล่วไม่ว่าจะกระโดด หรือวิ่ง

ขึ้นบันได้ได้สบายมาก

ไปจนถึงกีฬาแมนๆอย่างฟุตบอล เพราะสามารถแยกแยะและจดจำลูกบอลได้

กีฬาเอ็กซ์ตรีมอย่างขี่มอเตอร์ไซค์ก็ทำได้

5. เรียนรู้ได้

อะซิโมมีที่ว่างสำหรับหน่วยความจำขนาดใหญ่ ถูกออกแบบมาให้สามารถป้อนข้อมูลได้หลากหลายเพื่อให้มันมีความสามารถเอนกประสงค์ ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของอะซิโมคือการคุมวงออเคสตร้า

และยิ่งกว่านั้นคือสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองได้

6. เต้นได้

อะซิโมมีชิปที่ทำให้สามารถเข้าใจแสง เงา และความเคลื่อนไหวได้ จึงอ่านความเคลื่อนไหวของตัวเองและสิ่งแวดล้อมได้ เต้นเข้าจังหวะจึงเป็นเรื่องไม่เกินความสามารถ ไม่ว่าจะเต้นเดี่ยว

หรือเต้นหมู่

7. ช่วยเหลือมนุษย์ได้

เพราะการช่วยเหลือให้คนมีชีวิตที่ง่ายขึ้นและปลอดภัยเป็นหน้าที่ของอะซิโม มันจึงถูกพัฒนาให้สามารถใช้การได้ในสิ่งแวดล้อมเหมือนจริง ในโลกจริงๆที่เราอยู่ เรียกว่าลอกเลียนแบบร่างกายและระบบความคิดและการเรียนรู้มาจากมนุษย์ แถมยังสามารถสั่งการด้วยเสียงได้เพราะอะซิโมเข้าใจคำง่ายๆ

เก่งทั้งบอกทาง และช่วยเรื่องการจราจร

เปิดฝากระติกน้ำได้ เพราะมีระบบเซนเซอร์ติดอยู่ที่ข้อมือด้วย ทำให้มันกะน้ำหนักวัตถุข้างหน้าแล้วถืออย่างถูกต้องได้

…แล้วก็รินให้ไม่หกออกจากแก้วได้

และเอาไปเสิร์ฟถึงมือคุณได้ด้วย

นี่คือความสามารถอันน่าทึ่งของเจ้าอะซิโม ข่าวแว่วว่าฮอนด้ากำลังพัฒนาให้มันเริ่มยกของจากเบาๆ ไปจนถึงของหนักอย่างรถยนต์ได้ และต่อไปอาจสามารถเข้าไปทำงานแทนมนุษย์ในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น ฟุคุชิม่าที่มีระดับกัมมันตภาพรังสีสูง 

ไม่แน่ว่าในวันหนึ่งมันอาจจะเก่งกว่าเรา จนมนุษย์อย่างเราๆตกกระป๋องไปเลย แต่ถึงอย่างไรเจ้าอะซิโมนี่แหละคือหลักฐานชั้นดีว่ามนุษย์นี่แหละที่มีความสามารถไม่จำกัด และที่สำคัญมีจินตนาการล้ำๆ สมกับสโลแกนของฮอนด้าที่ว่า นี่คือ “พลังแห่งความฝัน” อย่างแท้จริง

ที่มา lexrobotics howstuffworks

ขอบคุณข้อมูลจาก : anngle.org