ท่าบริหารข้อไหล่เพื่อป้องกันและแก้..อาการข้อไหล่ติด หรือข้อไหล่ติดแข็ง
ท่าบริหารข้อไหล่เพื่อป้องกันและแก้อาการเส้นไหล่ติด หรือข้อไหล่ติดแข็ง มักพบหลังจากมีการปวดของข้อไหล่ แนะนำโดย กายภาพบำบัด โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ http://winne.ws/n4791
อาการข้อไหล่ติด หรือข้อไหล่ติดแข็ง มักพบหลังจากมีการปวดของข้อไหล่ ซึ่งอาจเจ็บอยู่เป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือน เมื่ออาการปวดทุเลาลง จะตามมาด้วยการยกแขนได้ไม่ดีเหมือนเดิม ซึ่งจะรบกวนการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่นหยิบของจากหิ้งสูง รูดซิปเสื้อหรือกระโปรงซึ่งอยู่ด้านหลัง หรือดึงกระเป๋าใส่เงินจากกระเป๋าหลังของกางเกง เป็นต้น
สาเหตุที่พบบ่อย
1. การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ทำให้เกิด กล้ามเนื้อฉีกขาด เส้นเอ็นขาด กระดูกหัก หรือ ข้อเคลื่อน
2. การใช้ข้อไหล่อย่างไม่เหมาะสม ทำให้เกิดการอักเสบของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ หรือกล้ามเนื้อข้อไหล่ฉีกขาด
3. การเสื่อมตามธรรมชาติ ของกระดูก กล้ามเนื้อและเส้นเอ็น
4. โรคข้ออักเสบที่มีข้อไหล่อักเสบร่วมด้วยได้ เช่น โรครูมาตอยด์ โรคเก๊าท์ เป็นต้น
5. เส้นเอ็นอักเสบและมีแคลเซี่ยมเกาะซึ่งเมื่อเอ๊กซเรย์ก็จะเห็นหินปูนสีขาวเป็นก้อนที่บริเวณรอบข้อไหล่
6. อาการปวดไหล่ซึ่งเป็นผลของอาการปวดร้าวมาจากที่อื่นหรือการอักเสบบริเวณใกล้เคียง เช่น กระดูกคอเสื่อม ถุงน้ำดีอักเสบ โรคของหัวใจ โรคตับ มะเร็ง เป็นต้น
7. ข้อไหล่ติดแข็ง พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เมื่อมีอาการปวดไหล่ ผู้ป่วยก็จะไม่เคลื่อนไหวข้อไหล่ เมื่อข้อไหล่ไม่เคลื่อนไหวในช่วงระยะเวลาหนึ่งก็จะเกิดเยื่อพังผืดแทรกในข้อ และเนื้อเยื่อรอบข้อไหล่ กล้ามเนื้อจะอ่อนแรงและลีบเล็กลง ทำให้เคลื่อนไหวได้ลำบาก อาการสำคัญก็คือ ถ้าเคลื่อนไหวข้อไหล่จะปวดมากขึ้น ถ้าอยู่นิ่ง ๆ จะไม่ปวด
การบริหารข้อไหล่มีความจำเป็นเพื่อป้องกันภาวะข้อไหล่ติด
แกว่งแขน..ท่าที่1 ยกแขนไปข้างหน้าขึ้นมาชิดหู
แกว่งแขน..ท่าที่ 2 กางแขนขึ้นชิดหูโดยหงายฝ่ามือขึ้นเมื่อแขนกางถึงระดับไหล่
แกว่งแขน..ท่าที่ 3 เอามือทั้ง 2 ข้าง ประสานท้ายทอย กางศอกทั้ง 2 ข้างไปด้านหลังให้สุด แล้วหุบศอกมาชิดด้านหน้าให้มากที่สุด
การบริหารข้อไหล่มีความจำเป็นเพื่อป้องกันภาวะข้อไหล่ติด
1.แกว่งแขน เอาแขนข้างที่ไม่เจ็บจับพนักเก้าอี้ ค่อยๆ แกว่งแขนไปข้างหน้า ข้างหลัง ข้างในออกข้างนอก แกว่งเป็นวงกลม ตามเข็มและทวนเข็มนาฬิกา ทำครั้งละ 1-2 นาที วันละ 2-3 ครั้ง
2.นิ้วไต่ฝาผนัง ให้ยืนตรงหันหน้าเข้าผนัง ใช้นิ้วไต่ผนังขึ้น-ลงโดยไม่ยกไหล่ตาม ค่อยๆเพิ่มความสูงขึ้นตามลำดับ
3. ท่ายกไม้
ท่าที่ 1 ยกขึ้น-ลงด้านหน้า
ท่าที่ 2 ยกขึ้น-ลงสลับหน้าหลัง
ท่าที่ 3 ยกไม้เอียงไปทางซ้าย-ขวา
ท่าที่ 4 ใช้มือไขว้หลังยกไม้ขึ้น-ลง สลับมือกัน ทำท่าละ 10 ครั้ง วันละ 2-3 หน
ท่าไขว้หลัง จับผ้าในท่าไขว้หลัง ดึงขึ้นลง สลับแขน
ท่าไขว้หลัง จับผ้าในท่าไขว้หลัง ดึงขึ้นลง สลับแขน
ข้อควรปฏิบัติ
1.ถ้าปวดมากและทันที ควรพักการใช้ข้อไหล่ และใช้ผ้าพยุงแขนและไหล่ไว้ชั่วคราว 1-2 วัน เวลาลุกนั่งหรือเดิน
2.ประคบไหล่ด้วยถุงน้ำแข็งเมื่อปวด วันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 15-30 นาที หลังจากนั้นจึงประคบด้วยความร้อน
3.อย่าบีบ นวด หรือดัดข้อไหล่ที่กำลังปวด ควรใช้ยาแก้ปวดทาบริเวณนั้นเบาๆ 2-3 ครั้ง และกินยาแก้ปวด
4.พอทุเลา อย่าใช้แขนข้างที่ปวดยกหรือหิ้วของหนักๆ
5.อย่ากางแขน โหนหรือเหนี่ยวนานเกินควร
6.ถ้าปวดทันที และไม่ทุเลาใน 24 ชั่วโมง ควรพบแพทย์ ถ้าทุเลาพอทน ก็เริ่มบริหารและสามารถใช้ยาแก้ปวดได้
7. หมั่นออกกำลังกล้ามเนื้อข้อไหล่ตามที่เคยปฏิบัติเรื่อยๆ
8. หลีกเลี่ยงการยกของหนักที่เกินความสามารถของท่าน
9. หลีกเลี่ยงการใช้มือหรือแขนทำงานเหนือศีรษะนานๆ
10. การยกของควรยกให้ใกล้ชิดกับลำตัวและให้งอข้อศอก
11. อย่าอ่านหนังสือหรือดูทีวีในท่านอนคว่ำแล้วใช้ข้อศอกยันรับน้ำหนักตัวไว้นานเกินไป
12. การยืนหรือเดินควรให้ไหล่ ลำตัว ตรงในท่าอกผายไหล่ผึ่ง
ขอบคุณแหล่งข้อมูล กายภาพบำบัดโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ