พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เจ้าของฉายา "วีรบุรุษนาแก"และ "มือปราบตงฉิน" ผู้เคยสู้รบปรบมือกับผู้อิทธิพลมาตลอดชีวิตราชการ ภาพลักษณ์ที่เป็นนายตำรวจมือปราบที่ซื่อตรง ผู้มีอำนาจในหลายรัฐบาลมักเลือกพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้เข้ามาสืบสวนสอบสวนคดีอื้อฉาวที่สังคมและสื่อตั้งข้อสงสัย

    แม้วันนี้ท่านจะได้เกษียณอายุราชการแล้ว แต่ท่านยังได้ใช้ความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ที่ผ่านมาคอยเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่หน่วยงานของรัฐเสมอโดยเฉพาะในวงการตำรวจ และสิ่งที่ท่านเห็นว่าเกิดการ “เลือกปฏิบัติ” เกิดขึ้นในสังคมไทย

    ในช่วงนี้กระแสของวัดพระธรรมกายได้เป็นที่จับตาของสังคมไทยกระบวนการทางกฎหมายเหมือนมีการรวบลัดขั้นตอน จนกระทั่งมีการออกหมายจับพระธัมมชโย กองกำลังกว่าครึ่งพัน ตรึงกำลังรอคำสั่ง ครึกโครมดั่งการไปทลายโจรใต้ แต่กลับต่างกันที่วัดพระธรรมกายเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมมีทั้ง พระสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา เด็กเล็ก คนชรา ล่าสุดอาจมีคำสั่งใช้มาตรา 44 มาใช้จัดการ ซึ่งหากมองในตรรกะความจริงแล้วไม่สมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง 

วันนี้ท่านเสรีพิศุทธ์ได้สละเวลาอันมีค่ามาเพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับคดีความหลวงพ่อธัมมชโยให้แก่ไทยเพสเพื่อไขความกระจ่างและเพื่อยังความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมใน 4 ประเด็นดังนี้

1. กรณีที่ศาลออกหมายเรียกหลวงพ่อธัมมชโยแบบนี้ท่านคิดอย่างไร ?

2.การแจ้งข้อกล่าวหานอกสถานที่หรือที่วัด ทำได้หรือไม่ ?

3.กรณีที่มีกลุ่มการเมืองออกมาแสดงความคิดเห็นรายวัน ท่านคิดว่าอย่างไร ?

4.ตอนนี้เรื่องอยู่ที่อัยการ แล้วต่อไปจะเป็นอย่างไร ?

01.กรณีที่ศาลออกหมายเรียกพระธัมมชโยแบบนี้ท่านคิดเห็นยังไง?

รายการสอบสวนดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจเนี่ยนะความจริงมันก็มีอายุความอยู่ ซึ่งพูดถึงว่าเมื่อดำเนินคดีแล้วก็อายุความก็อีกยาวเลยนะครับ ถามว่ารอได้ไหม มันรอได้ ใช่ไหม มันจำเป็นที่จะต้องไปเอามาให้ได้เดี๋ยวนี้มั้ย

    ในเมื่อทางผู้ต้องหาหรือผู้ที่ถูกกล่าวหาคือทางท่านธัมมชโยบอกว่าป่วยแล้วมีใบแพทย์อะไรมาต่างๆ นี้ ถ้าเป็นผมนะ ผมก็จะต้องให้เกียรติกันบ้างเพราะในฐานะที่เป็นพระชั้นผู้ใหญ่แล้วก็เป็นวัดใหญ่ที่ทำคุณประโยชน์ให้กับทางพระพุทธศาสนา หรือทางสังคมโลกอะไรต่างๆจำนวนเยอะอะไรต่างๆ

แม้กระทั่งทางภาคใต้ที่มีการก่อการร้ายมีการฆ่าพระอะไรต่างๆ เยอะแยะไอ้พวกโจรก่อการร้ายมันมาฆ่าพระ พระจะมีทางสู้ไหม ร้อยทั้งร้อยก็ตายหมดแหละใช่ไหมเพราะฉะนั้นพระก็จะหนีถูกไหม คนพุทธ ชาวพุทธพระหนีไปหมด ก็เห็นทางวัดก็ส่งอาหารส่งอะไรต่างๆนะพระไม่ต้องออกบิณฑบาต แล้วตอนนี้นะ ออกบิณฑบาตไปที่ไหนก็ถูกยิงที่นั่นอะไรต่างๆนะเห็นแต่ทางวัดนี้ก็ส่งไปให้ ก็เป็นช่วยเหลือพุทธศาสนาด้วย ช่วยเหลืออะไร เรื่องความมั่นคงของประเทศชาติด้วยอะไรต่างๆ

   ทางจะดำเนินคดีมันก็ต้องฟังสักนิดหนึ่งถ้าท่านยังไม่มาตอนนี้นะ จะมาเมื่อไหร่ล่ะ ใช่ไหม เมื่อไหร่จะหายป่วยมันก็รอกันไปรอกันมาได้อย่างนี้นะ มันไม่ต้องถึงขนาดเร่งรัดว่า เมื่อไม่มาออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 อะไรอย่างนี้นะ แล้วก็ออกหมายค้นออกหมายจับเลย ออกหมายจับก็จะจับกันให้ได้เลยอย่างนี้ ซึ่งผมว่าไม่จำเป็น 

02.การแจ้งข้อกล่าวหานอกสถานที่หรือที่วัดทำได้หรือไม่?

ได้ครับ การสอบสวนจะทำที่ไหน เมื่อไหร่เวลาใดก็ได้นะครับ ไม่จำเป็นที่จะต้องมาทำที่ทำการของพนักงานสอบสวนหรอกนะครับ ไม่จำเป็นที่จะต้องมาที่ดีเอสไอหรือเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะไปพบหลวงพ่อใช่ไหม เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ให้ท่านเซ็นต์รับสารภาพหรือปฏิเสธจะประกันตัวที่นั่น ที่ไหน เมื่อไหร่ หลักทรัพย์อะไรสามารถทำได้หมด

(ดีเอสไอ) พูดอย่างนี้พูด ผมว่า ผิดน่ะไม่พูดความจริงให้สังคมได้รับทราบ ประชาชนก็อาจจะไขว้เขวถูกไหม จริงๆ ทำได้ ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ

ก็ผมกว่าจะเป็น ผบ. แล้วก็เกษียณมาผมก็เห็นอยู่ตลอดเวลานะ หากทางวัดเชิญดีเอสไอไปแจ้งข้อกล่าวหา ผมว่าดีเอสไอควรจะไปนะ แล้วเรื่องมันจะจบง่ายนะครับ

ไม่ใช่ว่า เอ้ย ไม่ได้จะต้องมาที่นี่(ดีเอสไอหรือศาล) ผมก็ไม่รู้ว่ามันเพราะอะไรนะซึ่งผมก็ฟันธงได้เลยว่ามันไม่ถูกเกี่ยวกับทางนี้ มันไปได้นะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องคดีอาญาทั่วไปนะครับ มันจะเป็นเงินพันบาท หมื่นบาท แสนบาท ร้อยล้านอะไรอย่างนี้มันเรื่องเป็นเรื่องปกติทางการเมืองไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยว 

03. กรณีที่มีกลุ่มการเมืองออกมาแสดงความเห็นรายวันท่านคิดว่าอย่างไร?

ผมเห็นท่านรัฐมนตรีไพบูลย์ ยุติธรรม มาให้สัมภาษณ์อยู่ตลอดเวลาซึ่งมันไม่เกี่ยวเลย เป็นเรื่องของผู้ปฏิบัติ แล้วท่านไม่ค่อยรู้กฎหมาย ท่านเป็นทหารน่ะถามว่าทำได้ เป็นทหารเคยทำอะไรเรื่องกฎหมายมาบ้าง ท่านให้สัมภาษณ์ผิดถูกแล้วแต่ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่จะแนะนำขึ้นไปแค่นั้นมันไม่ใช่หรอก ไอ้พวกสอพลอมี ใช่ไหม คล้ายๆ ว่าเดาว่านายมีความคิดอย่างนี้ ก็สอพลออะไรอย่างนี้ ไอ้นั่นก็พูดไปเรื่อยเปื่อยขาดประสบการณ์ นะครับ

คือในกรณีนี้  คือความจริงคนนอกเนี่ยนะซึ่งไม่รู้ข้อเท็จจริงเรื่องลึกๆ ไม่ควรจะออกมาแสดงความคิดเห็นอะไรมากอย่างที่เอ่ยชื่อ ท่านพุทธอิสระ นะครับ หรือว่า คุณไพบูลย์ นิติตะวันอะไรต่างๆ เหล่านี้นะ ซึ่งไม่รู้ข้อเท็จจริงก็ไม่ควรจะออกมาแสดงความคิดเห็นอะไรมากนะครับ มันเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน คือเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่จะทำการสืบสวนหรือดูๆ อะไรต่างๆ คือข้อเท็จจริงมันจะอยู่ในสำนวนนั้น แม้แต่ผมก็ยังไม่รู้เลยถูกไหมนะครับเพราะฉะนั้นคนนอกไม่ควรแสดงความคิดเห็นอะไรมากเท่าไหร่ 

04. ตอนนี้เรื่องอยู่ที่อัยการ แล้วต่อไปจะเป็นอย่างไรต่อครับ?

  ทีนี้ขั้นตอนเนี่ย ตอนนี้สำนวนก็ไปที่อัยการแล้วอัยการก็จะต้องตรวจสำนวน ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ก็จะต้องตั้งเป็นคณะมีอัยการผู้ใหญ่มาตรวจสำนวน ดูซิว่าสำนวนการสอบสวนที่ดีเอสไอส่งไป พยานหลักฐานมันเพียงพอที่จะสั่งฟ้องต่อศาลได้ไหมถ้าอัยการเห็นว่าก็ยังต้องสอบสวนเพิ่มเติม อัยการก็จะต้องส่งสำนวนกลับมาแล้วก็มีประเด็นต่างๆ ที่จะให้สอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นอะไรบ้างมากน้อยยังไงอันนี้เราก็จะเห็นข้อบกพร่องของสำนวนการสอบสวนแล้วว่ามันยังไม่พร้อม ถูกไหม หรือว่าถ้าเหตุการณ์เห็นว่าพยานหลักฐานมันไม่สามารถที่จะเอาผิดทางท่านธัมมชโยได้อัยการก็จะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องไปเลยก็ได้ นี้พอสั่งไม่ฟ้องเสร็จ สำนวนก็จะต้องกลับมาที่ดีเอสไออีกทีหนึ่งเพื่อให้มีความเห็นแย้งไปที่อัยการสูงสุดอีกทีหนึ่ง มันก็เป็นขบวนการอย่างนี้ มันก็ไม่ต้องไปเร่งรีบจับหรอกถ้าสุดท้าย ถ้าสมมุติว่าสั่งฟ้อง สมมุติอัยการสั่งไม่ฟ้องพอแย้งไปอัยการสูงสุดสั่งฟ้อง สั่งฟ้องนี่ก็เป็นขั้นตอนที่จะต้องเอาตัวให้ได้ล่ะรู้อยู่นี่ว่าอยู่ที่วัด ถึงจะมาเริ่มจับกุมตอนนั้นก็ได้ แต่ถ้าเกิดแค่อัยการตรงนี้สั่งไม่ฟ้อง อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง แล้วคุณพยายามบุกที่จะเอาตัวให้ได้นี้ แล้วคุณจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน ต้องลาออกกันหมดนะเนี่ยทั้งที่ดีเอสไอหรือว่ารัฐมนตรียุติธรรมที่มาให้สัมภาษณ์ ในเชิงว่าต้องเอาให้ได้ต้องจับให้ได้อย่างโน้นอย่างนี้ ถ้าอัยการเกิดเขาสั่งไม่ฟ้องแล้วคดีถึงที่สุดแล้วต้องลาออกหมดน่ะพวกนี้