10 วิธีดื่มชา ให้ได้สุขภาพที่ดี
ชา เป็นเครื่องดื่มที่มีผู้บริโภคมากที่สุดในโลกมานานกว่า 1,000 ปี มีวิธีดื่มให้ได้ประโยชน์สูงสุดอย่างไร ต้องหาคำตอบ http://winne.ws/n7772
1. ดื่มชาที่ไม่ใส่น้ำตาล
ชาไม่ใส่น้ำตาลสามารถดื่มได้มากถึง 4-9 ถ้วยต่อวัน หรือใช้จิบแทนน้ำเปล่าได้ แต่หลัง 5 โมงเย็นไปแล้วควรงดดื่ม เพราะฤทธิ์กาเฟอีน จะไปกระตุ้นสมองให้ตื่นตัว ส่งผลให้นอนไม่หลับได้
2. ดื่มชาทันทีที่เพิ่งชงเสร็จร้อนๆ
ไม่ควรปล่อยไว้นานเกินกว่า 2 ชั่วโมง เนื่องจากสารสำคัญอย่างคาเทชิน (Catechin) ซึ่งสารดังกล่าวเป็นสารที่มีฤทธิ์ช่วยดักจับอนุมูลอิสระ เมื่อปล่อยชาไว้นาน สารคาเทชินจะดักจับและเกิดการรวมตัวกับออกซิเจน โดยจะทำให้สีของน้ำชาเข้มขึ้น รสชาติฝาดมากขึ้น เนื่องจากมีกรดแทนนินสูง (Tannin) จะทำให้การดูดซึมสารอาหารมีประสิทธิภาพที่แย่ลง โดยเฉพาะการดูดซึมธาตุเหล็ก แคลเซียมและแมกนีเซียมนั่นเอง
3. ดื่มชาหลังกินอาหาร 2-3 ชั่วโมง กระตุ้นการย่อยอาหาร
การดื่มชาหลังจากกินอาหารไปแล้ว 2-3 ชั่วโมง จะช่วยกระตุ้นให้น้ำย่อยหลั่งออกย่อยสารอาหารจำพวกวิตามินต่างๆ เป็นไปดีขึ้น (แต่สำหรับคนที่ชอบจิบชาแทนน้ำเปล่าและคนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบควรหันมาจิบน้ำชาอ่อนจะดีกว่า เพราะชาแก่จะยิ่งทำให้การหลั่งกรดออกมามากขึ้น ทำให้เกิดการระคายเคืองภายในกระเพาะอาหารได้มากยิ่งขึ้น)
4. ดื่มชาเขียว 2 ถ้วย ช่วยป้องกันอาการหลงลืม
จากผลการศึกษาในผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่นที่ดื่มชาเขียวทุกวันอย่างน้อย 2 ถ้วยพบว่า มีอาการสูญเสียความจำ และหลงลืมน้อยกว่าคนในวัยเดียวกัน สาเหตุเป็นเพราะกรดอะมิโนแอล-ธีอะนิน (L-theanine) ในใบชามีคุณสมบัติกระตุ้นคลื่นอัลฟ่าในสมอง ทำให้รู้สึกสงบ จิตใจไม่วอกแว่ก มีสมาธิ สามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำได้ในระยะหนึ่ง โดยกรดอะมิโนชนิดนี้มีอยู่ในใบชาทุกชนิด แต่จะพบมากที่สุดในชาเขียว
5. ดื่มชาชงร้อน 4 ถ้วยทุกวันบำรุงกระดูกและฟัน
ด้วยสารไฟโตเคมีคอลในใบชาช่วยบำรุงกระดูกไม่ให้เปราะบางลง แนะนำว่าควรดื่มชาชงร้อนไม่ใส่น้ำตาลอย่างน้อย 4 ถ้วยต่อวัน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกระดูกและฟัน
6. การดื่มชาเขียว 5 แก้วทุกวันช่วยลดการสะสมไขมัน
ด้วยสารโพลีฟีนอลที่มีคุณสมบัติลดการสะสมไขมัน และยับยั้งการดูดซึมไขมันเข้าสู่ร่างกาย หากดื่ม 5 แก้วต่อวันก็สามารถช่วยเผาผลาญแคลอรีได้สูงถึง 70-80 แคลอรี
7. ชาเขียวหรือสารสกัดจากใบชาสดแช่เย็นคุณค่าสารสำคัญเต็มเปี่ยม
ความเย็นจะช่วยรักษาคุณค่าของสารสำคัญในใบชาไว้ได้ อย่างไรก็ตาม หากขบวนการผลิตเครื่องดื่มชาเชียวต้องผ่านการต้มหรือทำให้ร้อน ในขบวนการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ก่อนบรรจุลงขวด ปริมาณสารสำคัญจะถูกทำลายไปเช่นกัน
8. ไม่ดื่มชาผสมนมทุกชนิด
ชาไม่ว่าชาร้อนหรือชาเย็นไม่ควรผสมนมข้นหวาน นมสดหรือนมผง เพราะโปรตีนในน้ำนมจะไปจับเข้ากับสารสำคัญในใบชาและทำลายประสิทธิภาพสารออกฤทธิ์ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
9. ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำชาขณะทานยา หรือระหว่างรับประทานอาหาร
เพราะสารสำคัญจากใบชาจะไปตกตะกอนธาตุเหล็กหรือเกลือแร่ ทำให้ไม่ร่างกายไม่สามารถดูดซึมวิตามินหรือแร่ธาตุในวิตามินเสริมได้ ส่วนการดื่มน้ำชาขณะรับประทานอาหารนั้น แร่ธาตต่างๆ จากผักใบเขียวหรือผลไม้จะถูกสารสำคัญจับไว้ จนดูดซึมเข้าไปในร่างกายไม่ได้เหมือนกัน
10. ใบชามี “สารเคเฟอีน” ในปริมาณสูง
สารเคเฟอีนในชาอาจสูงกว่าในเมล็ดกาแฟด้วยซ้ำไป เพียงแต่การดื่มน้ำชานั้น สารแทนนินจะป้องกันหรือลดการดูดซึมคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ฤทธิ์การกระตุ้นหัวใจและสมองน้อยกว่ากาแฟมาก
ที่มา plus.google