แคนาหรือแคป่า เป็นอาหารและยา สรรพคุณเหลือล้น โปรดอย่ามองข้าม

สรรพคุณของแคนา: ราก..มีรสเย็น ช่วยบำรุงโลหิต (ราก)[1] เมล็ด..ใช้เป็นยาแก้อาการปวดประสาท (เมล็ด)[1] ดอก..ช่วยในการนอนหลับ (ดอก)[6] เมล็ด..ช่วยแก้โรคชัก (เมล็ด)[1] ดอก..ช่วยแก้ไข้ลมหัวได้เช่นเดียวกับดอกแคบ้าน (ดอก)[6] http://winne.ws/n14676

7.2 พัน ผู้เข้าชม
แคนาหรือแคป่า เป็นอาหารและยา สรรพคุณเหลือล้น โปรดอย่ามองข้าม

แคนา หรือ แคป่า

แคนา ชื่อวิทยาศาสตร์ Dolichandrone serrulata (Wall. ex DC.) Seem. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Bignonia serratula Wall. ex DC., Bignonia serrulata Wall. ex DC., Spathodea serrulata (Wall. ex DC.) DC., Stereospermum serrulatum DC.)[1] จัดอยู่ในวงศ์แคหางค่าง (BIGNONIACEAE)[1]

สมุนไพรแคนา มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า แคขาว แคเก็ตวา แคเก็ตถวา แคเค็ตถวา (เชียงใหม่), แคภูฮ่อ (ลำปาง), แคป่า (เลย, ลำปาง), แคทราย (นครราชสีมา), แคยาว แคอาว (ปราจีนบุรี), แคยอดดำ (สุราษฎร์ธานี), แคตุ้ย แคแน แคฝา แคฝอย แคหยุยฮ่อ แคแหนแห้ (ภาคเหนือ), แคนา (ภาคกลาง) เป็นต้น[1],[2],[3],[5]

แคนาหรือแคป่า เป็นอาหารและยา สรรพคุณเหลือล้น โปรดอย่ามองข้าม

ลักษณะของแคนา

ต้นแคนา หรือ ต้นแคป่า จัดเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดเล็กถึงขนาดกลาง มีความสูงของลำต้นได้ถึง 10-20 เมตร ลำต้นเปลาตรง มักแตกกิ่งต่ำ เปลือกของลำต้นเป็นสีน้ำตาลอ่อนอมสีเทาและอาจมีจุดดำประ ผิวต้นเรียบหรือล่อนเป็นเกล็ดขนาดเล็ก ๆ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและการปักชำราก โดยสามารถพบต้นแคนาได้ตามป่า ตามทุ่ง ตามไร่นา และตามป่าเบญจพรรณทั่วไป[1],[3],[4] มีเขตการกระจายพันธุ์อยู่ในประเทศลาว พม่า เวียดนาม และในประเทศไทยสามารถพบได้ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และทางภาคกลาง โดยอาจจะได้ประปรายในป่าเบญจพรรณ และพบได้บ่อยตามนาข้าวทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ระดับความสูงไม่เกิน 300 เมตร[2],[5]

ใบแคนา มีใบเป็นใบประกอบแบบขนชั้นเดียวปลายคี่ ออกตรงข้ามกันประมาณ 3-5 คู่ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่แกมขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบเบี้ยว ส่วนขอบใบหยักเป็นแบบซี่ฟันตื้น ๆ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2.5-7 เซนติเมตรและยาวประมาณ 6-16 เซนติเมตร ผิวใบด้านล่างมีขนสั้นอยู่ประปรายบนก้านใบ ส่วนก้านใบย่อยมีความยาวประมาณ 7-10 มิลลิเมตร[1]

แคนาหรือแคป่า เป็นอาหารและยา สรรพคุณเหลือล้น โปรดอย่ามองข้าม

ดอกแคนา ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะสั้น ดอกมีขนาดใหญ่ ลักษณะของดอกเป็นรูปแตรสีขาว โดยจะออกดอกตามปลายกิ่ง ดอกยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร ส่วนก้านดอกยาวประมาณ 1.8-4 เซนติเมตร ในแต่ละช่อจะมีดอกอยู่ประมาณ 2-10 ดอก กลีบเลี้ยงหนาและเหนียว ปลายเรียวเล็กและโค้งยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร หุ้มดอกตูมมิด เชื่อมติดกันเป็นหลอดโค้งปลายแหลม เมื่อดอกบานจะมีรอยแตกทางด้านล่าง มีลักษณะเป็นกาบหุ้มกลีบดอกติดกันเป็นท่อ ส่วนปลายขยายออกเป็นรูประฆัง และจะแยกออกเป็นแฉก 5 แฉก 

กลีบดอกเชื่อมติดกัน ยาวประมาณ 16-18 เซนติเมตร ส่วนหลอดกลีบดอกจะยาวประมาณ 13-14 เซนติเมตร ส่วนโคนจะแคบเป็นหลอด สีเขียวอ่อน ส่วนบนจะบานออกคล้ายกรวยเป็นสีขาวแกมสีขมพู แฉกกลีบดอกมีอยู่ 5 กลีบ ลักษณะเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร ที่ขอบกลีบจะย่นเป็นคลื่น ๆ ดอกเป็นสีขาว ดอกตูมเป็นสีเขียวอ่อน ๆ โคนกลีบมีสีน้ำตาลปน ดอกมีเกสรตัวผู้ 4 ก้าน ติดอยู่ด้านในของท่อกลีบดอก ปลายแยก มีขนาดสั้น 2 ก้านและยาว 2 ก้าน และยังมีเกสรตัวผู้ที่เป็นหมันอีก 1 ก้าน มีรูปร่างเป็นเส้นเรียวเล็กคล้ายเส้นด้าย มีความยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ส่วนอับเรณูยาวประมาณ 1 เซนติเมตร เป็นสีเทาดำ และจานฐานดอกเป็นรูปเบาะ เป็นพูตื้น ๆ และมีเกสรตัวเมียอยู่ 1 ก้าน 

โดยดอกแคนาจะค่อย ๆ บานทีละดอก ดอกมีกลิ่นหอม บานในตอนกลางคืน และจะออกดอกในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน[1]

ผลแคนา ผลเป็นฝัก ออกฝักช่อละประมาณ 3-4 ฝัก ลักษณะของฝักแบนเป็นรูปขอบขนาน ฝักโค้งและบิดเป็นเกลียว มีความยาวประมาณ 40-60 เซนติเมตร ส่วนเมล็ดเป็นรูปสี่เหลี่ยม ยาวประมาณ 2.2-2.8 เซนติเมตรรวมปีกบางใส[1],[5]

แคนาหรือแคป่า เป็นอาหารและยา สรรพคุณเหลือล้น โปรดอย่ามองข้าม

สรรพคุณของแคนา

ราก..มีรสเย็น ช่วยบำรุงโลหิต (ราก)[1]

เมล็ด..ใช้เป็นยาแก้อาการปวดประสาท (เมล็ด)[1]

ดอก..ช่วยในการนอนหลับ (ดอก)[6]

เมล็ด..ช่วยแก้โรคชัก (เมล็ด)[1]

ดอก..ช่วยแก้ไข้ลมหัวได้เช่นเดียวกับดอกแคบ้าน (ดอก)[6]

ใบ..นำมาต้มกับน้ำเป็นยาบ้วนปาก (ใบ)[1]

ดอก..มีรสหวานเย็น ใช้เป็นยาขับเสมหะ โลหิต และลม (ดอก)[1]

ราก..ช่วยแก้เสมหะและลม (ราก)[1]

ใช้ต้มรับประทานแก้อาการท้องร่วง (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[2],[3]

แคนาหรือแคป่า เป็นอาหารและยา สรรพคุณเหลือล้น โปรดอย่ามองข้าม

เปลือกต้น..ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ โดยใช้กับสตรีหลังคลอดบุตร (เปลือกต้น)[1]

ดอก..ช่วยขับผายลม (ดอก)[1]

ดอก..ช่วยในการขับถ่ายให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น (ดอก)[6]

ช่วยแก้พยาธิ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[2],[3]

ช่วยแก้ริดสีดวงงอก (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[2],[3]

ช่วยแก้อาการตกเลือด (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[2],[3]

ใบใช้ตำพอกรักษาแผล (ใบ)[1]ช่วยแก้ฝีราก (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[2],[3]

ใช้เป็นยาแก้บวม (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[2],[3]

ดอกแคนาสามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้ โดยนำมาทำเป็นแกงส้ม หรือจะนำดอกมาลวก หรือต้มจิ้มกินกับน้ำพริกก็ได้เช่นกัน[1],[3]

รสขม..ของดอกแคนาจะช่วยทำให้รับประทานอาหารอร่อยยิ่งขึ้น[6]

ต้นแคนาเป็นต้นไม้ทรงพุ่ม ใบและฝักแลดูสวยงาม เหมาะสำหรับปลูกเป็นไม้สำหรับให้ร่มเงาและเป็นไม้ประดับเสริมจุดเด่นให้สวนที่ปลูกได้[4]

ใช้เป็นอาหารสัตว์ เช่น วัว ควาย (ข้อมูลไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าใช้ส่วนไหน แต่เข้าใจว่าเป็นดอก)[4]

เนื้อไม้..ของต้นแคนาสามารถนำมาใช้ทำสิ่งก่อสร้างอาคารบ้านเรือนได้ เช่น ทำเป็นเสา ไม้กระดาน ฝาเพด้าน พื้น ฯลฯ[2],[3]

ต้นและดอกแคนาสีขาวที่ร่วงลงพื้นหอมและสวยงาม

แคนาหรือแคป่า เป็นอาหารและยา สรรพคุณเหลือล้น โปรดอย่ามองข้าม

เมนูง่าย ๆ กับแคนาหรือแคป่า ผัดน้ำมันหอย

แคนาหรือแคป่า เป็นอาหารและยา สรรพคุณเหลือล้น โปรดอย่ามองข้าม

แคนาแกงส้มกุ้ง

แคนาหรือแคป่า เป็นอาหารและยา สรรพคุณเหลือล้น โปรดอย่ามองข้ามแหล่งภาพจาก Prakard

แคนาหรือแคป่าแกงจืดหมูยัดไส้

แคนาหรือแคป่า เป็นอาหารและยา สรรพคุณเหลือล้น โปรดอย่ามองข้ามแหล่งภาพจาก puechkaset.com
แคนาหรือแคป่า เป็นอาหารและยา สรรพคุณเหลือล้น โปรดอย่ามองข้าม

References อ้างอิงจาก

ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.  “แคนา“.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.phargarden.com.  [26 ธ.ค. 2013].

ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.  “แคขาว“.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.qsbg.org.  [26 ธ.ค. 2013].

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์.  “แคขาว“.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.uru.ac.th.  [26 ธ.ค. 2013].

ระบบฐานข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชน สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน).  “แคนา“.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.bedo.or.th.  [26 ธ.ค. 2013].

สารานุกรมพืชในประเทศไทย สำนักงานหอพรรณไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช.  “แคขาว“.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.dnp.go.th/botany/.  [26 ธ.ค. 2013].

ไทยโพสต์.  “แคป่า บานกลางกรุง ตอกย้ำความอร่อยของผักตามฤดูกาล“.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.thaipost.net.  [26 ธ.ค. 2013].

ภาพประกอบ : www.flickr.com (by SierraSunrise), www.phargarden.com, เว็บไซต์ kaentong.com (by kaentong)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (MedThai)

ที่มาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://medthai.com/แคนา/

แชร์