ประโยชน์ที่มนุษย์พึงได้รับจากหลักธรรมชาติ ที่เป็นคำแนะนำจากพระพุทธองค์

แหล่งภาพจาก ข่าวเด่น - Tlcthai.com

ประโยชน์ที่มนุษย์พึงได้รับจากหลักธรรมชาติ ที่เป็นคำแนะนำจากพระพุทธองค์ 

โลกและธรรมชาติ ย่อมเกิดและเป็นไปตามกาลเวลา

       แต่การเป็นไปของโลกที่เปลี่ยนแปลง นั้นมีผลกระทบต่อมนุษย์ผู้อาศัยโลกนี้เป็นถ่ินเกิดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น สิ่งที่มนุษย์พึงได้รับคือ ความรู้เกี่ยวกับเหตุและผลที่มนุษย์ได้รับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันคืออะไร

      พระพุทธศาสนา คือวิถีแห่งการพิสูจน์และทดลองปฏิบัติ นานมาแล้ว มนุษย์ได้เรียนรู้ทฤษฎีหรือคำสอนของพระพุทธศาสนา แต่ขาดการปฏิบัติคือการพิสูจน์ความจริงที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้

       คิดง่าย ๆ วันนี้ ถ้ามนุษย์เปิดใจให้กว้าง ไม่ต้องเรียกร้องการเปลี่ยนความเชื่อหรือเปลี่ยนศาสนาแต่อย่างใด ขอเพียงใช้ปัญญาไตร่ตรอง และทดลองปฏิบัติตามหลักสากลเกี่ยวกับการให้อย่างน้อย 5 ข้อ

       ข้อที่ 1 เมื่อเรารักชีวิตมากเพียงใด แน่นอน ทั้งมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ย่อมรักชีวิตของตนเองมากฉันนั้น นั่นคือการละเลิกเบียดเบียนชีวิตซึ่งกันและกัน

       ข้อที่ 2 พึงทราบและเข้าใจว่า ตราบใดที่มนุษย์ทุกผู้ทุกนาม มีความรักและหวงแหนในทรัพย์สินเงินทองที่ตนพึงมีและหามาได้ ด้วยความเหนื่อยยาก เพื่อการดำรงชีวิตของตน ไม่ว่ามนุษย์ผู้ใด ควรให้เกียรติและไม่ละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินของผู้อื่นฉันนั้น ยกเว้นการอนุญาตแล้วในทรัพย์นั้น โลกก็จะอยู่เป็นสุขได้

       ข้อที่ 3 เมื่อมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม ต่างมีความรักและหวงแหนในสมบัติที่มีชีวิตที่ตนเองมีอยู่ นั่นคือบุคคลต่าง ๆ ในครอบครัว บุตร บริวารที่เขารักและรับผิดชอบ ดังนั้น มนุษย์ด้วยกันไม่ควรละเมิดหรือแย่งชิง ทรัพย์ที่มีชีวิตเหล่านั้นของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง นอกจากได้รับการอนุญาต

        ข้อที่ 4 เมื่อมนุษย์ เป็นสัตว์สังคมชั้นสูง เป็นสัตว์ประเสริฐกว่าสัตว์อื่นใด ๆ ในโลก มนุษย์ควรมีความเชื่อถือได้ จากคำพูดที่แสดงออกมา พูดแต่คำจริง มีประโยชน์ มีเมตตา และถูกต้องตามเวลาที่ควรพูดต่อกัน โลกก็สงบได้ ไม่หวาดระแวงกัน ไม่ทะเลาะกัน ไม่เข้าใจผิดกัน โลกก็สงบได้

       ข้อที่ 5 มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ พึงมีสติอยู่บนโลกนี้ เพื่อไม่ละเมิดในสิทธิตั้งแต่ข้อ 1-4 ให้คงอยู่ในใจตลอดไป ด้วยการไม่ทำลายสติของตนเอง ด้วยการดื่มเครื่องดองของเมาทั้งปวงนั้นเสีย

       จะเห็นได้ว่า ทั้ง 5 ข้อดังกล่าวแล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับความเชื่อใด ๆ เลย แต่เป็นสิ่งทีมนุษย์ควรได้เรียนรู้ด้วยการน้อมนำมาปฏิบัติด้วยตัวเอง เพื่อพิสูจน์หลักความจริงของชีวิตบนโลกนี้ ที่เรียกว่า ธรรมชาตินั่นเอง 

       มิได้บังคับให้ปฏิบัติ มิได้บังคับให้เชื่อ แต่เพื่อการอยู่ร่วมกันของมวลมนุษย์บนโลกนี้ อย่างมีความสุขร่วมกันเท่านั้นเอง

ต้นไม้ใกล้ฝั่ง

24 กันยายน 2560

พระพุทธศาสนาในฐานะที่ช่วยช่วยสร้างสรรค์อารยธรรม และสร้างสันติภาพโลก

แหล่งภาพจาก www.xn--12cm1bm5dua0c1alb3vqa.com

พระพุทธศาสนาในฐานะที่ช่วยช่วยสร้างสรรค์อารยธรรม และสร้างสันติภาพโลก

       พระพุทธศาสนาที่ช่วยสร้างสรรค์อารยธรรมโลกก็คือ พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งปัญญา ดังในกรณีประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหลาย ตระหนักแล้วว่า แม้ประเทศชาติจะเจริญก้าวหน้าในด้านวัตถุและระบบต่าง ๆ แล้วอย่างมากมาย แต่ก็ยังเกลื่อนกล่นไปด้วยปัญหานานัปการ ทั้งที่ยังแก้ไม่ได้และที่เกิดประดังขึ้นมาใหม่ ไม่สามารถบรรลุสันติสุขที่แท้จริงได้ เขาจึงคิดว่าวัฒนธรรมและอารยธรรมของเขาเดินผิดพลาด หรือขาดปัจจัยหรือองค์ประกอบสำคัญบางอย่างไป และจึงพากันแสวงหาวิถีทางที่ถูกต้องหรือหาปัจจัยสำคัญที่ขาดนั้น

       สิ่งที่ขาดไปในอารยธรรมของชนชาติเหล่านี้ก็คือ การพัฒนาจิตใจ และพัฒนาพัฒนาปัญญา ซึ่งถือว่าการพัฒนาทั้งสองด้านนี้ เป็นหลักการของพระพุทธศาสนา ดังนั้นพระพุทธศาสนาจึงอำนวยประโยชน์ มีคุณค่าอย่างยิ่งต่ออารยธรรมของมนุษยชาติเพราะสามารถชี้นำทางที่จะทำให้การพัฒนาอารยธรรมดำเนินไปอย่างถูกต้องสมบูรณ์ ส่งผลให้มวลมนุษย์ประสบสันติสุขและอิสรภาพได้ตามความมุ่งหมาย

บทบาทของพระสงฆ์ 

ดังคำตรัสของพระพุทธองค์

      “จรถ ภิกฺขเว  จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย” แปลว่า “เธอทั้งหลายจงจาริกไป เพื่อประโยชน์เกื้อกูลและความสุข แก่ชนจำนวนมาก เพื่อเห็นแก่ประโยชน์สุขของชาวโลก"

บทบาทของพระพุทธศาสนา

      “คนมิใช่ประเสริฐหรือต่ำทรามเพราะชาติกำเนิด แต่จะประเสริฐหรือต่ำทรามเพราะการกระทำ” แล้วก็ไม่ให้มัวหวังผลจากการอ้อนวอนบูชายัญ สอนให้เปลี่ยนการบูชายัญหรือเลิกการบูชายัญ ให้หันมาหวังผลจากการกระทำ นี่คือการ “ประกาศอิสรภาพของมนุษย์”

อ้างอิงจาก: https://www.gotoknow.org/posts/504160