รัฐบาลอาเซียนหลายชาติตื่นตัว เร่งกำหนดมาตรการผลิต-ส่งออก-นำเข้าอาหารเข้มงวดมากขึ้น โดยรัฐบาลกัมพูชา เตรียมประกาศบังคับใช้กฎควบคุมมาตรฐานผลิตอาหารครั้งแรกปลายปีนี้

หลายประเทศในอาเซียนเร่งกำหนดมาตรการเพิ่มมาตรฐานในการผลิต ส่งออก และนำเข้าอาหารและวัตถุดิบจากประเทศอื่น โดยในเวียดนาม รัฐบาลได้ผ่านกฎหมายเพิ่มจำนวนค่าปรับและเพิ่มโทษจำคุกแก่ผู้ผลิตอาหารและวัตถุดิบที่ฝ่าฝืนเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยได้ปรับเพิ่มโทษจำคุกสูงสุดจาก 5 ปี เป็น 20 ปี และเพิ่มค่าปรับเป็น 10 เท่า คิดเป็น 5 ร้อยล้านดอง หรือราว 8 แสนบาท หรือสูงกว่านั้น เช่น กรณีของบริษัท ฟอร์โมซา พลาสติกสัญชาติไต้หวัน ที่ถูกศาลเวียดนามสั่งปรับเป็นเงิน 500 ล้านดอลลาร์ หรือราว 17,000 ล้านบาท หลังปล่อยสารพิษจากโรงงานลงในแม่น้ำในเวียดนาม ทำให้ปลาตายจำนวนมาก 

ด้านรัฐบาลของเมียนมา เร่งตรวจและกำจัดโรงงานผลิตอาหารที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยเน้นไปที่อุตสาหกรรมผลิตเครื่องดื่มในประเทศ ที่โดยมากมักละเมิดกฎ ขณะที่รัฐบาลสิงคโปร์ ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ได้ออกกฎห้ามไม่ให้ร้านอาหารในศูนย์อาหาร ขายอาหารที่มีส่วนผสมของปลาดิบ หากไม่มีเอกสารแสดงว่ารับวัตถุดิบมาจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน

ขณะเดียวกัน รัฐบาลกัมพูชาเตรียมบังคับใช้กฎหมายควบคุมมาตรฐานการผลิตอาหารครั้งแรกในประเทศในปลายปีนี้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของกัมพูชากล่าวว่า ได้ตั้งเป้าให้ประเทศเป็นผู้ส่งออกอาหารรายหลักในภูมิภาคอีกด้วย

ในส่วนของภาคธุรกิจ ได้ตื่นตัวเรื่องดังกล่าวเช่นกัน เช่น ห้างอิออน (AEON) ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น ที่มีสาขาอยู่ในอาเซียนหลายประเทศ เช่น เมียนมา กัมพูชา เวียดนาม และไทย ได้ออกกฎบังคับให้ผลิตภัณฑ์ประเภทเนื้อสัตว์และผัก แปะฉลากบ่งบอกแหล่งที่มาและชนิดของยาฆ่าแมลงที่ใช้ระหว่างการผลิต  อย่างไรก็ตาม กฎดังกล่าว กำหนดให้ใช้ในห้างอิออนสาขาเวียดนามเท่านั้น

ที่มา http://news.voicetv.co.th/world/403599.html