"คบคนพาล" ก็เหมือนขึ้นบันไดผิด ผิดไปตลอดผิดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าไม่ลงมาเริ่มต้นขึ้นบันไดที่ถูกต้อง

ปลาร้าพันห่อด้วย ใบคา ใบก็เหม็นคาวปลา คละคลุ้ง คือคนหมู่ไปหา คบเพื่อน พาลนา ได้แต่ร้ายร้ายฟุ้ง เฟื่องให้เสียพงศ์ http://winne.ws/n11329

3.9 พัน ผู้เข้าชม
"คบคนพาล" ก็เหมือนขึ้นบันไดผิด ผิดไปตลอดผิดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าไม่ลงมาเริ่มต้นขึ้นบันไดที่ถูกต้องแหล่งภาพจาก วัดพระธรรมกาย

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า

พาโล อปริณายโก : คนโง่ คนพาล ไม่ควรเป็นผู้นำ

        ณ วันนี้สังคมไทยเปลี่ยนไปมาก แม้เราจะเรียกตัวเองว่าเป็นสังคมชาวพุทธ แต่เอาเข้าจริง เราก็ไม่ได้น้อมนำคำสอนของพระองค์มาประพฤติปฏิบัติ

        คำว่า คนพาล ในความหมายของพระพุทธองค์คือ คนที่คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว

        ขอถามสังคมว่า

        - คนที่เนรคุณต่อพระอุปัชฌาย์ ผู้ประทานการบวชแก่ตน

        - คนที่เนรคุณต่อครูบาอาจารย์ที่เคยให้การอุปถัมภ์ค้ำจุน ส่งเสียให้เล่าเรียนจนจบถึงต่างประเทศ

        - คนที่คิดเสี้ยมให้รัฐบาลมาเป็นปฏิปักษ์กับวัดวาอาราม

อย่างนี้จะเรียกว่า คนพาล หรือไม่?

        จากข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ รวมทั้งรายการสัมภาษณ์นายแพทย์ท่านหนึ่งที่ออกมาวิเคราะห์เรื่องของวัดพระธรรมกาย ล้วนแสดงให้เห็นถึงแรงอาฆาตพยาบาท บวกโมหจริต คือ ความลุ่มหลงไม่รู้จริง จนสามารถเล่าความเท็จได้เป็นฉาก ๆ แบบไร้ความละอาย และไม่รู้สึกผิด ก็ฟ้องให้เห็นถึงความผิดปกติ ซึ่งผู้เขียนเคยสอบถามจิตแพทย์ประเด็นนี้ จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญบอกว่านี่เป็นอาการของโรคจิตชนิดหนึ่ง ที่พูดโกหกเป็นประจำจนตัวเองคิดว่าเป็นความจริง

        หากลองนึกย้อนหลังไปเมื่อไม่นาน นายแพทย์ท่านนี้ก็เคยบอกว่าศิษย์วัดพระธรรมกายมีการสื่อสารโดยใช้เทคโนโลยีพิเศษ ทั้งที่นั่นคือ เครื่องนับการภาวนาสัมมา อรหัง

        ล่าสุดก็มโนไปอีกว่า เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายได้ "เคลียร์ " หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ซื้อตัวพระผู้ใหญ่ในจังหวัดหมดแล้ว ซึ่งเป็นการดูถูกพระมหาเถระซึ่งท่านผ่านร้อนผ่านหนาว มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล เกินที่คนพาลอย่างนายแพทย์ท่านนั้นจะเข้าใจได้ อาเจ็กของผู้เขียนเคยให้ข้อคิดไว้ว่า

        “ ลื้อนะ หากใครก็ตามที่คิดว่าคนซื้อได้ แสดงว่า มันนั่นแหละที่ซื้อได้ ”       

"คบคนพาล" ก็เหมือนขึ้นบันไดผิด ผิดไปตลอดผิดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าไม่ลงมาเริ่มต้นขึ้นบันไดที่ถูกต้องแหล่งภาพจาก Pantip

        มโนเท่านั้นยังไม่พอ ยังกล้าพูดเท็จแบบหน้าตายว่า การตั้งรักษาการแทนเจ้าอาวาส เป็นเรื่องการกันหลวงพ่อสององค์ออกไปจะได้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องคดี ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างยิ่ง เพราะความจริงคือ หลวงพ่อทั้งสององค์ท่านอาพาธ ลูกศิษย์ลูกหาก็อยากให้ท่านได้พักผ่อนรักษาตัว จึงต้องมอบหมายให้ผู้ช่วยเจ้าอาวาสเป็นผู้รักษาการแทน

        ที่มโนจนน่าขันก็คือ การที่บอกว่าหลวงพ่อธัมมชโยมีทรัพย์สิน เพชร พลอยใส่คอนเทนเนอร์ แอบฝังซ่อนไว้จำนวนมาก หากเป็นเช่นนั้นจริง วัดคงไม่ต้องมานั่งรอรับบริจาคแล้ว ตั้งแต่สร้างวัดมา หลวงพ่อธัมมชโยท่านก็แบกรับภาระในการเลี้ยงดูลูกพระลูกเณร อุบาสก อุบาสิกา และคนงานมาตลอด  

        ซึ่งคนที่แบมือขอจากหลวงพ่อและญาติโยมแบบอดีตพระท่านนั้นคงไม่เข้าใจ เพราะตนเองไม่เคยหาเงินเข้าวัดเลย

        เพราะชีวิตอยู่กับความมโนแบบนี้ จึงทำให้สามารถพูดอะไรก็ได้ที่ตนเข้าใจไปคนเดียวว่า จริง แม้แต่การที่ไปออกรายการต่าง ๆ ดูสีหน้าผู้ดำเนินรายการก็รู้ว่า เขาไม่เชื่อถือ แต่ที่เชิญไปออกเพราะทำให้ขายข่าวได้เท่านั้นเอง

        เมื่อคนชอบมโนไปอยู่กับหน่วยงานของรัฐ คอยเป็นที่ปรึกษา ชี้นำเรื่องต่าง ๆ เลยยิ่งไปกันใหญ่ พลอยทำให้หน่วยงานนั้น ๆ ขาดความน่าเชื่อถือไปด้วย ทั้งยังคอยเสี้ยมให้หน่วยงานต่าง ๆ มองวัดแบบผิด ๆ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรหน่วยงานเหล่านั้นหรือบุคคลนั้น ๆ จะตาสว่าง หันไปดูบ้างว่าสังคมเขามองตนเองว่าอย่างไร มัวแต่คบคนพาลเลยถูกชี้นำเข้ารกเข้าพงไปเรื่อย   

"คบคนพาล" ก็เหมือนขึ้นบันไดผิด ผิดไปตลอดผิดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าไม่ลงมาเริ่มต้นขึ้นบันไดที่ถูกต้องแหล่งภาพจาก BlogGang.com

อย่าลืมภาษิตที่คนโบราณ ปู่ ย่า ตา ยาย ของเราให้ข้อคิดไว้ในโคลงโลกนิตินะครับ

                             ปลาร้าพันห่อด้วย    ใบคา

                             ใบก็เหม็นคาวปลา     คละคลุ้ง

                              คือคนหมู่ไปหา         คบเพื่อน พาลนา

                              ได้แต่ร้ายร้ายฟุ้ง       เฟื่องให้เสียพงศ์

ขอขอบคุณภาพจาก google.com

อนาคาริก

12/13/16

ที่มา http://hansolo63.blogspot.com/2016/12/blog-post_13.html

แชร์