เมื่อ 22 ม.ค.2561 บีบีซีรายงานโศกนาฏกรรมความรักที่ถูกพรากด้วยความตาย เพียงเพราะชายหญิงเกิดมาต่างวรรณะ คดีดังกล่าวเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก เมื่อมีภาพเหยื่อถูกรุมสังหารกลางถนนช่วงกลางวันแสกๆ กระทั่งเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2560 ศาลอินเดียในรัฐทมิฬนาฑู ตัดสินประหารชีวิตจำเลย 6 คน หลังจากนำโทษประหารชีวิตมาใช้ในคดีฆ่าเพื่อรักษาเกียรติตั้งแต่ปี 2554

น.ส.เกาศัลยา ม่ายสาวที่ผันตัวเองเป็นนักรณรงค์ต่อต้านระบบวรรณะ เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวความเศร้าและการเรียกร้องความยุติธรรมนี้ว่า ตนเองเกิดในวรรณะกษัตริย์ ต้องฟ้องดำเนินคดีกับพ่อแม่ตัวเองเพราะอยู่เบื้องหลังสังหารสามี วรรณะจัณฑาล ที่ถูกเหยียดว่าต่ำต้อยที่สุดในสังคม

“เขาต้องตายเพียงเพราะว่ามารักฉัน” หญิงสาวกล่าวถึงเหตุสังหาร นายศันการ์ สามีวัย 22 ปี อย่างสะเทือนขวัญกลางเมืองอุทุมาลเพชร เขตตีรปุระ รัฐทมิฬนาฑู ทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย

หญิงสาวเล่าว่ารู้จักหนุ่มคนรักตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือด้วยกัน นายศันการ์เป็นลูกชายคนงานรายวันในฟาร์ม อาศัยอยู่ในกระท่อมห้องเดียว อยู่ร่วมกับสมาชิกครอบครัวอีก 4 คน แตกต่างจากฝ่ายหญิงที่มาจากวรรณะกษัตริย์ที่มีอิทธิพล เป็นลูกสาวของผู้ให้กู้ยืมเงินและเจ้าของกิจการเดินรถแท็กซี่ อาศัยอยู่ในบ้าน 2 ชั้น

ครอบครัวเคยพาเกาศัลยาไปดูตัวจับคู่กับชายที่ครอบครัวหาให้แต่หญิงสาวปฏิเสธ จึงถูกส่งตัวไปเรียนที่วิทยาลัยเอกชนเพื่อเรียนวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จนได้เจอกับนายศันการ์

ตอนนั้นชายหนุ่มเป็นนักศึกษาวิศวกรรม และพยายามจีบ เดินเข้ามาถามว่ารักอยู่กับใครหรือเปล่า เกาศัลยาไม่ตอบและเดินหนี ต่อมาชายหนุ่มทำแบบเดิมอีกพร้อมบอกเพิ่มเติมว่า “ที่ถามว่าเธอรักใครอยู่รึเปล่าน่ะเพราะฉันคิดว่าฉันรักเธอ”

เกาศัลยาบอกให้นายศันการ์ไปหาหญิงคนอื่น เพราะถ้าคนอื่นรู้ว่าไปไหนมาไหนด้วยกัน จะต้องลำบากอย่างไรก็ตามทั้งสองกลายเป็นเพื่อนกัน จนเวลาผ่านไปเกาศัลยารักศันการ์มากขึ้นๆ รักของทั้งคู่เป็นรักที่ได้มายาก เพราะฝ่ายหญิงไม่สามารถออกไปนอกบ้านโทรศัพท์หาฝ่ายชายได้ลำพัง จึงคุยกันผ่านว็อตส์แอพทุกวันนาน 18 เดือน

“ฉันมีฝัน 2 อย่าง” ศันการ์ข้อความหาเกาศัลยา “สร้างบ้านที่เหมาะสมให้พ่อแม่อยู่และรักเธอตลอดไป”

จนกระทั่งในเดือนก.ค.ปี 2558 คนขับรถวิทยาลัยเห็นทั้งคู่แช็ตหากัน จึงฟ้องแม่ของเกาศัลยาตามกฎของวิทยาลัย พ่อแม่ยึดโทรศัพท์และโทร.หานายศันการ์ เตือนให้อยู่ห่างลูกสาวตนไว้ พร้อมโกหกลูกสาวว่า นายศันการ์ขอเลิกแล้ว วันต่อมาจึงพาลูกสาวลาออกจากวิทยาลัย

เกาศัลยาร้องไห้ทั้งคืน โทร.หาศันการ์ว่าจะทำเหมือนที่พ่อแม่บอกตนหรือไม่ จนในที่สุดทั้งคู่หนีไปแต่งงานด้วยกัน

วันที่ 12 ก.ค 2558 ทั้งคู่แต่งงานกันที่วัดและไปสถานีตำรวจเพื่อแจ้งว่าทั้งคู่แต่งงานกันข้ามวรรณะและต้องการให้ตำรวจคุ้มครองความปลอดภัย

แต่พ่อแม่ ญาติๆ ของฝ่ายหญิงก็ยังไม่ยอม พยายามแยกทั้งสองออกจากกัน แจ้งความกับตำรวจว่านาย ศันการ์ลักพาตัวลูกสาว

นอกจากนี้ครอบครัวยังลักพาตัวเกาศัลยาไปหาคนทรงเจ้าและนักบวชซึ่งละเลงขี้เถ้าบนหน้าและบังคับป้อนยาพิษ กดดันให้เลิกกับสามีเสีย แต่ก็ไม่สำเร็จ ต่อมาพ่อแม่ฝ่ายหญิงเสนอเงินให้นายศันการ์อีก 1 ล้านรูปีหรือราว 500,000 บาท ให้เลิกกับลูกสาว ซึ่งไม่สำเร็จอีก

แม่และพ่อของฝ่ายหญิง / THE NEWS MINUTE

หนึ่งสัปดาห์ก่อนเกิดเหตุ เป็นช่วงที่ทั้งคู่ใช้ชีวิตสมรสร่วมกันมา 8 เดือนแล้ว เกาศัลยาเล่าว่าพ่อแม่มาเยี่ยมที่บ้านและสั่งให้กลับไปด้วยกัน เมื่อตนปฏิเสธ พ่อจึงพูดขึ้นว่า “ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอหลังจากวันนี้ เราไม่รับผิดชอบ”

วันที่ 13 มี.ค.2559  บนถนนที่คนพลุกพล่าน  สามีภรรยาไปตลาดเพื่อซื้อเสื้อตัวใหม่ให้ฝ่ายชายไว้ใส่ไปทำงานในวันรุ่งขึ้น นายศันการ์ถูกรุมแทงจนเสียชีวิตช่วงกลางวันแสกๆ ขณะที่เกาศัลยาได้ยินประโยคที่คนร้ายตะโกนว่า “ไปรักมันทำไม”

ภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งคู่เดินไปตามถนนอย่างรวดเร็ว ก่อนข้ามถนนมีชาย 5 คนขี่มอเตอร์ไซต์ 2 คัน หยุดอยู่ด้านหลัง ชาย 4 คนเดินไปหาทั้งคู่และเข้าทำร้ายด้วยมีดยาว ด้วยท่าทีสบายๆ ฟันทั้งคู่ราวกับว่าตัดแต่งพุ่มไม้อยู่ ทั้งสองเสียเลือดอย่างมาก นายศันการ์ตะกายที่จะหนี  คนร้ายตามไปซ้ำจนล้มลง

เหตุเกิดขึ้นในเวลา 36 วินาที คนร้ายกลับไปที่มอเตอร์เตอร์ไซค์และขับออกไปอย่างไม่รีบร้อนขณะที่คนเริ่มมุง ซึ่งต่อมาตำรวจพบว่ามีคน 6 คนใช้มอเตอร์ไซค์ 3 คัน สองคันติดป้ายทะเบียนรถปลอม 5 คนทำร้ายสองสามีภรรยา ขณะที่อีกคนดูต้นทาง

น.ส.เกาศัลยาบาดเจ็บด้วยในเหตุการณ์

ระหว่างนำทั้งคู่ส่งโรงพยาบาล เลือดอาบหน้าเกาศัลยาจนมองไม่ถนัด นายศันการ์ยังมีชีวิตอยู่และพูดด้วยเสียงที่อ่อนแรงว่า “มาซบที่อกของผมนะ” เกาศัลยาจึงเคลื่อนตัวไปข้างๆ สามี จากนั้นไม่กี่นาทีขณะที่รถพยาบาลฉุกเฉินเข้าโรงพยาบาล ชายหนุ่มก็หยุดหายใจ

แพทย์พบรอยแผลถูกแทง 34 แห่งบนร่างชายหนุ่ม เสียชีวิตจากอาการเลือดออกจากแผลหลายแห่งรวมถึงบาดเจ็บจากการถูกแทง ส่วนหญิงสาวรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 20 วัน ใบหน้าหุ้มด้วยผ้าพันแผล และรอแผลเย็บ 36 เข็มหายเป็นปกติ รวมถึงรักษากระดูกแตก

การสอบสวนพบว่า ผู้ก่อเหตุมีพ่อตาของเหยื่อรวมอยู่ด้วย เพราะไม่พอใจที่เหยื่อมาแต่งงานกับลูกสาวที่มีวรรณะสูงกว่า จึงลงมือด้วยการอ้างว่าต้องการรักษาเกียรติยศของตระกูลโกศัลยา โดยจ้างชาย 5 คนเคยก่อเหตุอาชญากรรมจำนวน 50,000 รูปี หรือราว 25,000 บาทเพื่อฆ่าลูกสาวและลูกเขยและป่าวประกาศให้ชาวบ้านรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อหญิงสาวรักกับชายที่วรรณะต่ำกว่า มีพยานเห็นเหตุการณ์ 120 คน

หลังก่อเหตุแล้ว พ่อของเกาศัลยามามอบตัว พร้อมด้วยบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดี 11 คน ในจำนวนนี้ 6 คนถูกตัดสินประหารชีวิต นายเกาศัลยาถูกจำคุกตลอดชีวิต และอีก 1 คนถูกจำคุก 5 ปี ขณะที่อีก 3 คน รวมถึงแม่ของหญิงสาวรอดพ้นข้อกล่าวหา

เกาศัลยาคัดค้านการยื่นประกันตัวพ่อแม่ถึง 58 ครั้ง บอกต่อศาลว่า เพราะแม่ขู่ไม่เลิกว่าจะฆ่าตน โดยแม่บอกว่า ให้ฉันตายเสียยังดีกว่ายอมให้แต่งงานกับนายศันการ์ เมื่อศาลยกฟ้องแม่ เกาศัลยายื่นอุทธรณ์ต่อ เพราะเชื่อว่าแม่มีความผิดเท่ากันกับพ่อ

หลังสามีเสียชีวิต เกาศัลยาเคยคิดฆ่าตัวตายและหันมาตัดผมสั้น เริ่มเรียน อ่านหนังสือเกี่ยวกับวรรณะ เริ่มเข้ากลุ่มต่อต้านวรรณะและต่อต้านอาชญากรรมวรรณะ ตีกลองของวรรณะจัณฑาล

เกาศัลยาในปัจจุบัน หัดตีกลองของวรรณจัณฑาล / NATHAN G

จนวันนี้เกาศัลยาทำฝันของสามีให้เป็นจริงด้วยการสร้างบ้าน 4 ห้องให้ครอบครัวสามีจากเงินชดเชยที่ได้รับจากรัฐบาล และเริ่มเปิดศูนย์ติวให้นักเรียนยากจน เดินทางทั่วรัฐทมิฬนาฑูเพื่อพูดต่อต้านระบบวรรณะ การฆ่าเพื่อรักษาเกียรติและบั่นทอนความสำคัญของความรัก

ขอขอบคุณ : ข่าวสด

https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_718641