หากพูดถึงร้านขนมหวาน ณ ชั่วโมงนี้  คงไม่มีที่ไหนร้อนแรงเกินกว่า After You Café ที่กำลังเดินหน้าเต็มสูบเตรียมขายหุ้น IPO 240 ล้านหุ้น และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI เพื่อระดมเงินขยายสาขาเพิ่มเติมในอนาคตทั่วประเทศไทย

          สำหรับคนที่ไม่เคยได้ลองทานร้านนี้.. After You Café คนจะเต็มเกือบทุกสาขา บางสาขาต้องยืนต่อคิว ถึงแม้จะเปิดตัวมานานกว่า 9 ปี แต่ยังเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าทั้งขาประจำ และขาจร ไม่เหมือนร้านขนมหวานอื่นที่มาไวไปไว

         ความสำเร็จที่เกิดขึ้นคงจะให้เครดิตใครอื่นไม่ได้ เว้นเสียแต่เป็น ‘’ สาวน้อยมหัศจรรย์เจ้าของอาณาจักรขนมหวาน After You Café

เธอประสบความสำเร็จขนาดนี้ได้อย่างไร ผมขอสรุปแง่คิดที่น่าสนใจจากเรื่องราวการทำธุรกิจของเธอกันครับ

1.ทำในสิ่งที่รัก หลงใหลในสื่งที่ทำ

          สิ่งหนึ่งที่เธอใฝ่ฝันมาตลอดคือการทำร้านขนมหวาน เป็นความใฝ่ฝันตั้งแต่วัยเด็ก จนโตขึ้นเธอก็ได้ลงมือเปิดร้านของตนเอง เรียกว่าการทำขนมหวานเป็นสิ่งเดียวที่เธอรักก็ว่าได้ ด้วยความที่เธอมีความหลงใหลกับการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งขนาดนี้ ทำให้การทำร้านขนมหวานเป็นสิ่งที่ไม่มีวันเบื่อหน่าย และท้ายที่สุดก็ประสบผลสำเร็จ

2.มีความคิดสร้างสรรค์

           เธอมักจะคิดไอเดียขนมหวานใหม่ๆอยู่เสมอ และผมเองก็เชื่อแบบนั้น เพราะหากได้ดูเมนูของร้านจะพบว่ามีขนมหวานให้เลือกมากมาย และมักจะมีเมนูใหม่ๆออกมาเรื่อย เธอบอกว่าการทำขนมเป็นสิ่งที่เธอชอบ

และการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆก็เป็นเหมือนกิจวัตรประจำวันของเธอ ส่งผลให้ลูกค้าไม่เกิดเบื่อเมนูของทางร้าน ยิ่งบางคราวมีเมนูใหม่ๆถูกใจ ลูกค้าก็ยิ่งมาลองชิมกัน วนเวียนแบบนี้เป็นประจำ

             นอกจากนี้ด้วยความคิดสร้างสรรค์ของเธอบวกเข้ากับสิ่งที่เธอรัก After You Café จึงถือกำเนิดก่อนใคร และถือเป็นเจ้าแรกๆที่ทำร้านขนมสไตล์นี้ ชิงความได้เปรียบเป็นผู้นำตลาด ก่อนที่คู่แข่งรายอื่นจะตามเข้ามา

3.เน้นเรื่องคุณภาพเป็นสำคัญ

         ราคาของขนมหวานที่ร้าน After You Café หากเทียบกับร้านอื่นอาจจะรู้สึกว่าแพง แต่ด้วยคุณภาพ และวัตถุดิบระดับพรีเมียม ทำให้ถึงแม้ราคาจะแพงกว่าแต่ลูกค้าก็ยังยินดีจ่าย ยกตัวอย่าง ชิบูย่า ฮันนี่โทสต์ ที่ปัจจุบันมีหลายร้านนำไปทำเลียนแบบ แต่ท้ายที่สุด ชิบูย่า ฮันนี่โทสต์ของร้าน After You Café ก็ยังอร่อยกว่าอยู่ดี เพราะคุณภาพ และวัตถุดิบของร้านดีจริงๆ

4.การออกแบบของร้านต้องโดนใจ

        ลองนึกภาพ After You Café ที่เป็นห้องแถวเก่าๆ ซอมซ่อ คงไม่ค่อยจะมีคนอยากเข้าไปนั่งชิมช็อคโกแลต ลาวาสักเท่าไหร่ การออกแบบร้านจึงถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จ ทุกสาขาของ After You Café จะสร้างบรรยากาศอบอุ่นน่านั่ง

          สไตล์การตกแต่งของร้านยึดโทนสีเอิรธ์โทนแบบเดียวกัน ตัวร้านดูทันสมัยโดดเด่นชนิดเดินผ่านไม่ต้องมองชื่อร้านก็รู้ว่านี่คือร้านอะไร เรียกได้ว่าทุกรายละเอียดของร้าน ผ่านการออกแบบมาหมดแล้วว่าต้องการจะสื่อสารกับลูกค้าอย่างไร

5.สร้างจิตใจบริการให้กับพนักงาน

           การบริการที่ร้าน After You Café ต้องยอมรับเลยว่าดีจริงๆ พนักงานหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส และบริการดีแทบทุกคน ไม่ค่อยจะเห็นใครยืนว่าง ยืนร้องเพลงเหมือนที่ผมเคยเจอในร้านบางแห่ง การปลูกฝังจิตใจบริการให้กับพนักงานถือเป็นกุญแจดอกสำคัญของการทำธุรกิจ

            เพราะตัวเจ้าของกิจการคงไม่สามารถบริการลูกค้าได้เอง พนักงานหน้าร้านจึงเหมือนเป็นหน้าตาของบริษัท การบริการที่ดีก็จะทำให้ลูกค้าประทับใจ ซึ่งผมเชื่อว่าเบื้องหลังมาจากการบริหารจัดการสวัสดิการความเป็นอยู่ และรายได้ของพนักงานเป็นอย่างดี เมื่อพนักงานมีความสุข ธุรกิจก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นด้วย

6.รักษามาตรฐาน

         สังเกตได้เวลาไปทานร้าน After You Café ไม่ว่าสาขาใดก็ตาม รสชาติจะเหมือนกันหมดทุกสาขา ไม่มีที่ไหนเพี้ยน แม้ว่าจะสั่งชิ้นขนาดปกติ หรือขนาดเล็ก นอกจากนี้การบริหารจัดการทุกสาขาจะเหมือนกันหมดบนมาตรฐานเดียวกัน

         ทั้งนี้เป็นเพราะเธอให้ความสำคัญกับมาตรฐานระดับสูงของทางร้านเป็นอย่างมาก มีการจัดการอย่างเป็นระบบ ฝึกฝนพนักงานให้พูดเหมือนกัน ปฎิบัติแบบเดียวกัน ทำทุกอย่างเหมือนกันราวกับพิมพ์ออกมาจากแม่พิมพ์ After You Café เลยทีเดียว

7.เจาะกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย

            โดยปกติร้านขนมหวานจะเป็นที่ชื่นชอบของเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ ผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย แต่ร้านของเธอเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มลูกค้ามีตั้งแต่เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้หญิง ผู้ชายที่ไม่กลัวอ้วน และบ่อยครั้งมากันแบบยกโขยงทั้งครอบครัว

            เพราะรูปแบบของ After You Café  ให้ความรู้สึกเหมือนทานขนมกันที่บ้านในครอบครัว ให้รู้สึกผ่อนคลายสบายๆ นอกจากนี้การที่เมนูส่วนใหญ่จะแชร์กัน ยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกแบ่งปันอีกด้วย ขนมของ After You Café ผู้ใหญ่ทานได้เด็กทานแล้วติดใจ ผู้หญิง หรือผู้ชายล้วนทานได้อร่อยเหมือนกันหมด

8.เน้นการตลาดแบบปากต่อปาก

         ส่วนใหญ่แล้วการโปรโมตร้าน After You Café จะเน้นการบอกกันปากต่อปากถึงความอร่อยของขนมที่หลากหลาย เธอเชื่อว่าการเป็นกระแสในตลาดแบบมาไวไปไวไม่ยั่งยืน จึงไม่อยากโปรโมตร้านมากเกินไป

        อยากให้ร้านสามารถดำเนินกิจการได้ด้วยตนเองมากกว่า ถ้าของดีจริงจะมีคนบอกต่อ แล้วยิ่งปัจจุบันโซเชียลเน็ตเวิร์คไปไกลมาก การแชร์รูปขนมที่น่าทานของทางร้าน ช่วยดึงดูดลูกค้าเก่าให้เข้ามาทานอยู่เสมอ เวลาที่มีเมนูใหม่ๆถูกแชร์ผ่านเฟซบุ๊คก็ทำให้มีลูกค้าใหม่เข้ามาทานเพิ่ม เป็นการกระตุ้นลูกค้าเก่า ขยายฐานลูกค้าใหม่

9.กำหนดราคาอย่างพอเหมาะ

         ถึงแม้ว่าราคาขนมต่อชิ้นจะเกินกว่า 100 บาทขึ้นไป แต่เธอพยายามกำหนดให้ราคาต่อหัวไม่เกิน 100 บาท เพราะขนมหวานที่ร้านส่วนใหญ่จะถูกสั่งมาแชร์กันมากกว่า จึงทำให้ราคาต่อหัวถูกลง ลูกค้าได้ทานขนมหวานแบบพรีเมียมในราคาที่เอื้อมถึงไม่แพงจนเกินไป

10.ไม่ยอมแพ้แม้ล้มเหลว

            ก่อนที่จะเปิดร้าน After You Café เธอเคยเปิดร้านอาหารทะเลมาก่อน ด้วยประสบการณ์ที่ยังน้อย และการบริหารจัดการที่ไม่เป็นระบบ ส่งผลให้ต้องปิดกิจการไป ถึงแม้จะพลาดพลั้งล้มเหลว แต่ก็ไม่ยอมแพ้ นำประสบการณ์แห่งความผิดพลาดมาเป็นบทเรียน ทำตามความใฝ่ฝันเปิดร้านขนมหวาน และไม่ทำผิดซ้ำสองจนประสบความสำเร็จได้จนถึงทุกวันนี้

สรุป

             อนาคตของ After You Café จะเป็นอย่างไรต้องติดตามดูกันต่อไป แต่ตอนนี้หากนึกถึงร้านขนมหวานที่อร่อยที่สุดร้านหนึ่งในไทย ก็ต้องมาที่ร้าน After You Café ของหญิงสาวผู้ทำตามความฝันของตนเอง ‘เม กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ..’

รูปภาพจาก  afteryoudessertcafe.com 

ที่มา   leaderwings