ทึ่ง!!"วัดติรูปะติ" วัดที่มั่งคั่งที่สุดของอินเดียนำทองคำที่ไม่ได้ใช้หลายพันก.ก.ฝากธนาคารช่วยระบบเศรษฐกิจชาติ
ทึ่ง!!วัดติรูปะติได้ชื่อว่าเป็นที่วัดมั่งคั่งที่สุดของอินเดีย ตกลงนำทองคำไม่ได้ใช้กว่า 7,000 ก.ก.เข้าหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประเทศ : หลังจากที่เปิดกรุวัดเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 16 ซึ่งขณะนี้ได้กลายเป็นวัดที่รวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งในอินเดีย http://winne.ws/n5201
วัดที่มั่งคั่งที่สุดในอินเดีย ตกลงนำทองคำหลายพันก.ก.เข้าหมุนเวียนช่วยเศรษฐกิจอินเดีย
วัดติรูปะติได้รับตำแหน่งวัดที่ร่ำรวยและมั่นคงที่สุดในอินเดีย ที่เมืองเจนไน ในรัฐอานธรประเทศ ซึ่งเชื่อว่ามีผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญวันละกว่า100,000 คน ร่วมถวายสิ่งของมีค่ารวมกันทั้งสิ้นกว่า 320,000 ล้านรูปี (ประมาณ 233,600 ล้านบาท)
วัดติรูปะติที่เมืองเจนไนของอินเดีย เข้าร่วมโครงการนำทองคำ 7,000 ก.ก. คิดเป็นมูลค่ากว่า 9,600 ล้านบาท ซึ่งทางวัดสะสมไว้หลายปีจากการที่มีผู้มาทำบุญด้วยทองคำจำนวนมาก ไปฝากธนาคารและรับดอกเบี้ยตอบแทนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่รัฐบาลอินเดียต้องการนำทองคำที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จำนวนมหาศาลนี้มาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
เมื่อทางวัดนำทองมาฝากธนาคาร จะมีการนำไปหลอมเป็นทองคำแท่งเพื่อนำออกหมุนเวียนวางจำหน่ายในตลาด ซึ่งจะช่วยลดการนำเข้าทองคำจากต่างประเทศ และแก้ปัญหาดุลการค้าได้ส่วนหนึ่ง
วัดติรูปะติขึ้นชื่อว่าเป็นวัดฮินดูที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในประเทศ และเป็นวัดที่มั่งคั่งที่สุดในโลก โดยมีผู้ทำบุญถึงราว 100,000 คนต่อวัน จนตู้รับบริจาคของวัดเต็มไปด้วยเงินสด อัญมณีและทองคำ รวมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ข้อมูลจากwww.google.com/ติรูปะติ)
นอกจากนี้
ชาวอินเดียพากันตื่นเต้น หลังมีการค้นพบขุมทรัพย์ วัดศรีปัดมะนาภาสวามี ซึ่งประกอบด้วยทอง เครื่องประดับเงิน เหรียญ และอัญมณีมูลค่านับหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใต้วัดเก่าแก่แห่งหนึ่ง ทางภาคใต้ของประเทศ
นายเค. ชายะกุมาร ผู้ว่าการรัฐเกรละ เปิดเผยว่า ขุมทรัพย์ดังกล่าว อาจมีมูลค่ารวมกันไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านรูปี (ประมาณ 365,000 ล้านบาท) โดยถูกค้นพบที่วัดศรีปัดมะนาภาสวามี ในสมัยศตวรรษที่ 16 ซึ่งขณะนี้ได้กลายเป็นวัดที่รวยที่สุดแห่งหนึ่งในอินเดียไปแล้ว วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองตริวันดรัม เมืองเอกของรัฐเกรละทางตอนใต้ของอินเดีย
สิ่งของมีค่าต่าง ๆ ประกอบด้วย สร้อยคอ เหรียญ และอัญมณีมีค่าจำนวนนับพันชิ้น ถูกเก็บอย่างมิดชิดอยู่ในห้องลับซึ่งสร้างอยู่บริเวณใต้พื้นของวัดที่ขึ้นชื่อด้านสถาปัตยกรรมอันละเอียดอ่อนมากแห่งหนึ่งของอินเดีย จำนวน 5 ห้อง ซึ่งเชื่อว่ามีอย่างน้อยอีกหนึ่งห้องที่ยังไม่ได้รับการสำรวจ
การค้นพบมีขึ้นหลังจากปิดตายมาเกือบ 140 ปี ปรากฏว่าพอเปิดเข้าไปก็พบสมบัติมูลค่ามหาศาล อย่างเช่น รูปหล่อเทพเจ้าที่ทำจากทองคำ ฝังเพชร ทับทิม มรกตและรัตนชาติอื่นๆ มงกุฎ สร้อยคอ ซึ่งเป็นของมีค่าที่มีคนนำมาถวายวัดอย่างต่อเนื่องมานานหลายร้อยปี
นอกจากนี้ก็ยังมีเหรียญทองคำที่เกิดจากการนำเหรียญทองมาร้อยต่อกัน มีความยาวถึง 6 เมตร(มติชนออนไลน์)