หลักการออม คือ รายได้ - เงินออม (30%) = ค่าใช้จ่าย  สำหรับคนที่มีเงินเดือนประจำ แต่อยากมีเงินเก็บมากขึ้น ไม่ยากเลย เรามีไอเดียดีๆ มาแชร์ให้เพื่อนๆ รู้กันว่า เราสามารถหารายได้พิเศษจากเงินเดือนประจำได้ไม่ยาก แค่ออมเล็กๆ น้อยๆ จากค่าใช้จ่าย เช่น เดือนนี้เรากำหนดค่าใช้จ่ายไว้ ที่ 7500 บาท แต่เราสามารถประหยัดค่ากาแฟ ได้วันละ 70 บาท หรือ 1,400 บาท ต่อเดือน เท่ากับเดือนนี้เรามีโบนัสเพิ่มมา 1,400 บาท คอนเซปง่ายๆ คือ ถ้าเราอยากมีโบนัสเพิ่มขึ้นในแต่ละเดือน ก็แค่ลดค่าใช่จ่ายที่ไม่จำเป็นลง เท่านี้เราก็จะมีเงินเพิ่มขึ้นในแต่ละเดือน ที่จะสามารถนำไปต่อยอดการลงทุน หรือไปใช้ทำอะไรที่เราอยากทำ  

มาดู  6 ไอเดีย เจ๋งๆ ที่จะทำให้เรามีเงินเพิ่มขึ้นแบบคาดไม่ถึง

1.เป้าหมายชัดเจน 

กำหนดเป้าหมายของการออมเงินให้ชัดเจน แล้วติดป้ายไว้ที่กระปุกเงินออม เช่น จะไปเที่ยวเกาหลี่  ต้องใช้งบประมาณ 30,000 บาท จะเดินทาง 10-16 เมษายน ปี 2560 ซึ่งมีระยะเวลาในการออม ประมาณ 8 เดือน เฉลี่ย เราจะต้องเก็บเงิน เดือนละ 3,750 ต่อเดือน

2.สร้างเงื่อนใข แบงค์ 50 ห้ามใช้

วิธีนี้คือ กำหนดตัวเองว่า ถ้าได้ธนบัตรใบละ 50 บาทมา ก็จะหยอดกระปุกอย่างเดียว จะไม่ใช้ แล้วมาดูว่า เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี เราจะมีเงินมากขึ้นแบบคาดไม่ถึงเลยทีเดียว บางทีอาจจะสามารถใช้หนี้ หรือไปเที่ยวได้เลย 

3.แบ่งเงินใส่ถุง

รายได้ - เงินออม = ค่าใช้จ่าย

ในแต่ละเดือน คุณควรจะหัก 30% จากรายได้เพื่อเก็บเป็นเงินออมต่างๆ ส่วนที่เหลือสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน เช่นค่าอาหาร, ค่ารถ หรืออื่นๆ  ก็เอามาแบ่งเฉลี่ยใส่ถุง

ให้คุณลองสังเกตตัวเองดูว่า เฉลี่ยแล้วในแต่ละวันคุณใช้เงินประมาณกี่บาท บวกเงินเข้าไปอีกนิดหน่อยเผื่อมีอะไรฉุกเฉิน หาตัวเลขกลมๆ ไว้ แล้วให้นำเงินมาใส่ถุงเพื่อใช้ในแต่ละวัน เช่น หากคุณใช้เงินวันละไม่เกิน 200 บาท ก็อาจจะใส่ซองไว้ 250 บาท เป็นจำนวนซองเท่าจำนวนวันในเดือนนั้น จากนั้นก่อนออกไปเรียนหรือไปทำงาน ก็หยิบซองเงินมาหนึ่งซอง การทำอย่างนี้จะช่วยให้คุณใช้เงินในจำนวนจำกัด ที่เหลือจะได้ออมหมด และฝึกให้คุณวางแผนจัดการเงินในมืออย่างมีคุณค่ามากที่สุดด้วย

4. กินแค่ 150 ถ้าเกิน ต้องหยอดกระปุกตามที่เกิน

กำหนดเลยว่า ภายในหนึ่งวัน คุณต้องใช้เงินไปกับค่าอาหารแค่ประมาณ 150 บาทเท่านั้น หากเกินกว่านี้ เช่น คุณจ่ายค่าอาหารไป 200 บาทวันนี้ แสดงว่าคุณต้องหยอดกระปุกเป็นเงิน 50 บาท วิธีนี้นอกจากจะได้จำกัดงบประมาณตนเองในการเลือกซื้ออาหาร และ ยังได้ออมเงินเพิ่ม  อีกนิดๆ ด้วย 

5. หักเศษเงินเดือน

สมมุติ คุณได้เงินเดือน 14,570 บาท ก็ลองเอา 570 บาทที่เป็นเศษออกมาเก็บไว้ เท่านี้ก็ได้รู้แล้วว่า อย่างน้อยๆ เนี่ย เดือนนี้คุณจะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นจาก 30% ของรายได้อีก 570 บาทแล้วนะ ง่ายๆ เลยใช่ไหมล่ะ แล้วถ้าเอาไปรวมกับเงินเก็บที่ได้จากวิธีการอื่นๆ ข้างต้น คุณก็จะมีเงินเก็บที่มากขึ้นเป็นกอบเป็นกำ แบบง่ายๆเลยทีเดียว

6. ออมเท่าค่ากาแฟ

คุณเป็นหนึ่งในคนที่ซื้อกาแฟทุกเช้าเพื่อให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าพร้อมทำงานหรือเปล่า? ยิ่งซื้อจากร้านชื่อดังบางร้านแล้ว มูลค่าแทบจะเทียบเท่าอาหาร 3 มื้อเลยด้วยซ้ำ วิธีนี้จะช่วยให้คุณได้มองเห็นว่า การซื้อกาแฟจากร้าน ซึ่งดูเหมือนเป็นค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย จริงๆ แล้วเมื่อทำทุกวัน จะเห็นได้ว่า ค่าใช้จ่ายตรงนี้แหละที่ทำให้เงินออมเราหายไปเป็นจำนวนมากสมมุติคุณซื้อกาแฟทุกวันที่ไปทำงาน ราคาแก้วละ 70 บาท คุณจะได้ออมเงิน 1,400 บาทจากวิธีนี้เพียงอย่างเดียว แต่ก็เท่ากับว่าคุณเสียเงินไป 1,400 บาทด้วยเช่นกัน ดังนั้นถ้าซื้อกาแฟน้อยลง เงินที่จะบินออกจากกระเป๋าเงินของคุณก็จะน้อยลง และส่วนนั้นก็จะสามารถกลายมาเป็นเงินออมได้โดยปริยาย

เห็นมั้ยล่ะคะว่า แค่วิธีการออมเงินง่ายๆ คุณก็จะมีเงินเก็บเต็มกระเป๋า ไว้เป็นหลักประกันในชีวิตยามฉุกเฉินได้ มาเริ่มสร้างนิสัยการออมตั้งแต่วันนี้ เพื่อจะได้เป็นเศรษฐีในวันหน้า  เมื่อเริ่มออมเงินได้ เห็นตัวเลขเงินออมมากขึ้น  จะรู้สึกภูมิใจในตัวเองระดับหนึ่งว่าเราก็ทำได้เหมือนกันนะ  แล้วจะเกิดความคิดต่อมาว่า “จะทำยังไงให้เงินออมของเรามากขึ้นกว่านี้” และจะเป็นแรงบันดาลใจให้เราเริ่มศึกษาหาความรู้เรื่องการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อต่อยอดให้เงินออมเติบโตขึ้น แล้วเส้นทางการเป็นเศรษฐี ก็ไม่น่าจะไกลเกินเอื้อมนะ สู้สู้! 

ขอบคุณข้อความจาก http://www.moneyguru.co.th/blog/

ขอบคุณรูปภาพจาก kapook.com ,homeyayoo.com , meekhao.com , pantip.com,          teen-mthai.com, board.postjung.com