นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่ประกาศให้ความช่วยเหลือแก่เมียนมาเป็นมูลค่า 800,000 ล้านเยน หรือ ประมาณ 264,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี เพื่อสนับสนุนการสร้างสันติภาพและความพยายามในการพัฒนาประเทศของเมียนมา

นายกรัฐมนตรีอาเบะ กล่าวระหว่างแถลงข่าวร่วมกับนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมาเมื่อวานนี้ (2 พ.ย.) ซึ่งอยู่ในระหว่างการเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 5 วันว่า เงินราว 40,000 ล้านเยน หรือราว 13,000 ล้านบาทจาก 800,000 ล้านเยนที่จัดสรรโดยรัฐบาลและภาคเอกชนญี่ปุ่น จะนำไปใช้ในการสนับสนุนชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ ในเมียนมา

นายอาเบะคาดหวังว่า ความช่วยเหลือนี้จะช่วยส่งเสริมในการสร้างสันติภาพในภูมิภาคต่าง ๆ ในเมียนมา และผลักดันให้กระบวนการสันติภาพมีความคืบหน้า ในขณะที่เงินส่วนที่เหลือจะนำไปใช้ในการพัฒนาส่วนอื่น ๆ เช่น สนามบินและโครงการผลิตกระแสไฟฟ้า

ด้านนางซูจีแถลงว่า เมียนมาได้รับความช่วยเหลือมหาศาลจากญี่ปุ่นในกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยและสร้างสันติภาพในประเทศ และทางรัฐบาลเมียนมาก็สนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และนางซูจีได้กล่าวปาฐกถากับชุมชนชาวเมียนมาในกรุงโตเกียวว่า เมียนมายังต้องพัฒนาในอีกหลายภาคส่วนและจะต้องใช้ความพยายามมากกว่าเดิม 2-3 เท่าในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวอย่างในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงความเสมอภาคด้วยการแบ่งปันความมั่งคั่งระหว่างประชาชนด้วยกัน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าพัฒนาต่อไปได้

ปัจจุบัน เมียนมาต้องการดึงดูดการลงทุนและกระชับความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นเพื่อคานอำนาจกับจีนซึ่งเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุด ขณะที่ญี่ปุ่นก็ต้องการเข้าไปลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาในเมียนมา