พระพุทธเจ้าทรงทอดทิ้งครอบครัวแล้วออกบวชนั้นจริงหรือไม่ ?
สมัยเป็นพระโพธิสัตว์ พระพุทธองค์ เคยบริจาคชีวิตตนเองให้เป็นอาหารของสัตว์อื่นแล้วหลายชาติ ในเมื่อพระองค์สละบุตรและภริยาที่รักได้ ก็ย่อมไม่มีสิ่งใดในจักรวาลที่พระองค์สละเพื่อผู้อื่นไม่ได้อีกต่อไป http://winne.ws/n17012
เจ้าชายสิทธ้ตถะทรงเสด็จออกผนวช โดยทรงม้ากัณฑกะและคนรับใช้ สหชาติเกิดมาด้วยบุญของพระองค์
... ตกลงว่าพระพุทธเจ้าทรงทอดทิ้งครอบครัวแล้วออกบวชนั้นจริงหรือไม่ ?
... ถามว่า : ทหารที่ทิ้งลูกเมียไปรบ ป้องกันประเทศ...เขาเป็นคนเห็นแก่ตัวหรือไม่? และถ้าหากเขารักลูกรักเมียมาก ไม่ยอมจากลูกจากเมียไป..เขาเป็นคนเช่นไร?
... อนึ่ง. เมื่อวันหนึ่ง ข้าศึก..มาประชิดถึงประตูบ้านแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นกับลูกเมียของเขา?
... ข้าศึก คือ ความแก่ ความตาย ความพลัดพราก ความเศร้าโศก และการตกนรกหมกไหม้ กำลังคืบคลานเข้ามาบดบี้บีทาชีวิตมนุษย์ทุกคนอยู่ ไม่ใช่หรือ?
... ถามว่า : ข้าศึกกองทัพใดในสากลจักรวาล ที่คอยย่ำยีชีวิตมนุษย์เราได้อย่างโหดร้ายแสนทรมาน อย่างหาหนทางตอบโต้เอาคืนใดๆ ไม่ได้เลย ..ได้เท่ากับกองทัพแห่งความแก่ ความเจ็บ ความตาย (และการตกนรก) ..ซึ่งมีสาเหตุมาจากตัณหาราคะในจิตใจ ของเราเอง
... ตัณหา ราคะคือตัวก่อภพ ก่อชาติ ให้ต้อง "เวียนว่าย ตาย-เกิด" อยู่ร่ำไป....ถึงแม้จะได้ประสบสุขอยู่บ้างเป็นระยะๆ แต่กลับเป็นเหยื่อล่อให้หลงยึดข้องไว้กับทุกข์หนักเข้าไปอีก จนต้องทำใจยอมจำนนเสียว่า
...“ชีวิตก็ต้องเป็นอย่างนี้แหละ เกิดมาแล้วก็ต้องแก่ เจ็บ ตายอย่างนี้แหละ จะมัวไปหาหนทางชนะศึกนี้อยู่ทำไม ในเมื่อยังไม่เคยมีใครในประวัติศาสตร์มนุษยชาติเอาชนะต่อความแก่ ความเจ็บ ความตายได้เลยสักคน แทนที่จะนั่งกลุ้มหาหนทางเอาชนะศึกนี้ มาแสวงหาความสุขภายใต้การบงการของผู้ชนะที่แน่นอนอยู่แล้ว ไม่ดีกว่าหรือ? ทำชีวิตให้รวยขึ้น ให้สวย หล่อขึ้น ให้มีกินมีใช้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ไม่ดีกว่าหรือ? จะมัวไปพรั่นพรึงต่อผู้ชนะที่ทรงอำนาจเช่นนี้ ให้เสียสุขในปัจจุบันขณะไปทำไม? เอาแรงกายแรงใจมาทำมาหากิน ทำชีวิตในวันพรุ่งนี้ให้มีความสุขสะดวกสบายกว่าทุกวันๆ ที่ผ่านมา ไม่ดีกว่าหรือ?”
..... สัตว์ทั้งหลายคิดกันเพียงแค่นี้ จึงพัฒนาตนเองอย่างสูงสุดได้เพียงแค่ความเป็นมนุษย์หรือเทพ ยังไม่ถึงขั้นความเป็น “อริยะ” หรือ “มหาบุรุษ”
......และในประเด็นนี้ เป็นคำตอบสำหรับคำถามที่ว่า “เจ้าชายสิทธัตถะ ทรงทิ้งบุตร ทิ้งภรรยา ออกจากพระราชวังไปหาความสุขแต่เพียงผู้เดียว เป็นการกระทำของบุรุษที่มีความรับผิดชอบต่อครอบครัวหรือไม่?”
....ตอบด้วยคำถามว่า : พระองค์ออกจากพระราชวัง จากปราสาทแสนสุข ๓ ฤดู ไปบรรทมสุขสบายอยู่ที่ไหน และกินอยู่อย่างไร?
....ตอบด้วยคำถามว่า : บุรุษที่รู้แน่ว่า ลูกเมียจะต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตายไปในที่สุด แล้วอยู่ตักตวงความสุขจากกันและกันภายในครอบครัว โดยไม่คิดหาหนทางแก้ไข คนเช่นนี้น่ายกย่องนักหรือ?
....ตอบด้วยคำถามว่า : ในที่สุด พระเจ้าสุทโธทนะ พระนางพิมพา และพระราหุลได้บรรลุพระอรหันต์ สรรพสัตว์ได้พ้นทุกข์ เพราะใคร?
...อ่านเนื้อหา อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎก โหลดได้ที่ : https://docs.google.com/uc?authuser=0&id=0By52zTbg94S8WktobWtvSjBleGM&export=download
สิ่งที่มหาบุรุษของโลก รัก..เทิดทูลยิ่งกว่าชีวิตตนเอง..คืออะไร
ตอบ... ลูก และภริยา
ก่อนหน้านั้น พระโพธิสัตว์ (พระองค์พุทธเจ้า) เคยบริจาคชีวิตตนเองให้เป็นอาหารของสัตว์อื่นแล้วหลายชาติ...ในเมื่อพระองค์สละบุตรและภริยาที่รักได้ ..ก็ย่อมไม่มีสิ่งใดในจักรวาลที่พระองค์สละเพื่อผู้อื่นไม่ได้..อีกต่อไป
ถาม......ถ้าพระเวสสันดรไม่มีจิตเด็ดเดี่ยวพอ..ที่จะบริจาคบุตรและภริยา พระองค์จะมีพลานุภาพแห่งจิตเด็ดขาด..พอที่จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าได้หรือไม่
และถ้าพระองค์ไม่ได้ตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า...แล้วลูกเมีย คือ พระนางพิมพา พระราหุล และพระอุบลวรรณาเถรี จะมีโอกาสบรรลุอรหันต์ตามพระองค์..เข้าถึงความพ้นทุกข์ได้หรือไม่
..และการที่ยังบรรลุธรรมไม่ได้นั่นคืออะไร?... คือ ยังต้องตกนรกได้อีกในแสนโกฏิชาติ ในอานาคตนั่นเอง..
ตอบ.........????
ถาม... ทหารที่ทิ้งลูกเมียไปรบ ป้องกันประเทศ...เขาเป็นคนเห็นแก่ตัวหรือไม่???
เป็นคำตอบที่ให้ข้อคิดกับผู้ที่สงสัยและตั้งตำถาม โดยเอาความคิดของเราปุถุชนคนธรรมดาที่ยังเต็มไปด้วยกิเลสและตัณหา ที่ยังมองตนเองเป็นหลักแต่สำหรับพระบรมโพธิสัตว์นั้นท่านมองประโยชน์ที่จะกิดแก่มวลสรรพสัตว์มุ่งขนสรรพสัตว์ให้หลุดพ้นจากภัยในวัฏสงสาร
เพราะฉะนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านจึงเป็นนาถของโลกที่แท้จริงทรงเปี่ยมด้วยพระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ พระองค์จึงเป็นพระพุทธเจ้ามหาศาสดาของโลกที่ไม่มีศาสดาใดยิ่งไปกว่า
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10213503260837532&id=1281720771