“แม่...ยังไงก็คือแม่. แม่ แม้จะไม่ใช่คนที่ดีที่สุด แต่แม่คือคนที่รักเราที่สุด”...

จากข้อความประกอบภาพ และคลิป ที่ซึ้งกินใจกับความดีที่พระรูปหนึ่งท่านทำต่อบุพการี ทำให้ชาวเน็ตแห่แชร์ชื่นชมและอยากรู้ว่าท่านคือใคร อยู่ที่ไหน

ต้องขอชื่นชมสื่อใหญ่ไทยรัฐที่ไปตามค้นมาจนทำให้พวกเราทราบสิ่งดี ๆอีกมากมายจากพระท่านมากกว่าสิ่งที่เห็นจากเฟซบุ๊กเสียอีกค่ะ

 ทราบชื่อว่า “พระสุลิยา กาติยาลาด” หรือ “พระยาน้อย” แห่งวัดท่งป่ง เมืองสีโคดตะบอง แขวงนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ต้องเดินจากวัดร่วม 5 กิโลฯ กลับมาดูแลแม่ที่บ้าน

“แม่ของหลวงพี่อายุ 49 ปี ป่วยหลายโรค เป็นความดัน เป็นเบาหวาน ป่วยมานานหลายปีแล้ว บางครั้งหากอาการหนักจะทำอะไรไม่ได้เลย ต้องนอนอย่างเดียวเกือบ 4-5 วัน โยมพ่อก็ป่วยเหมือนกัน ปกติพี่สาวกับน้องชายจะเป็นคนผลัดเปลี่ยนกันมาดูแล เหตุการณ์ในคลิป แม่เกิดเป็นลมกะทันหัน ตอนนั้นพี่สาวกับน้องชายไม่อยู่บ้าน หลวงพี่จึงไปดูแลแทน ซึ่งปกติหลวงพี่ทำแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว” พระสุลิยาเล่าถึงเหตุการณ์ในคลิป

พร้อมเผยอีกว่าขณะดูแลโยมแม่ โยมพ่อ พระสุลิยาได้นำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาที่ศึกษามาเป็นธรรมทานให้พ่อแม่ให้รักษาศีล สวนมนต์เป็นประจำ เพื่อจะได้มีกำลังใจและมีแรงสู้กับชะตากรรมของตัวเอง และบางครั้งหากบิณฑบาตเสร็จก็มักนำของกินมาให้พ่อ แม่ ข้าวก้นบาตรที่เหลือก็ให้สุนัขที่ถูกนำมาปล่ยอยที่บ้าน 4-5 ตัวได้กิน

กับข้อสงสัยของชาวเน็ตว่าพระสงฆ์มาจับต้องผู้หญิงอาบัติหรือไม่...พระสุลิยาตอบข้อซักถามว่าอาบัติ แต่เป็นการอาบัติที่อนุโลมได้ เนื่องจากทำด้วยความเมตตา ไม่ได้ทำด้วยกามหรือราคะ อีกทั้งการที่ดูแล บิดร มารดา พระพุทธเจ้าจัดว่าเป็นมงคลอันประเสริฐ เป็นหนึ่งในในมงคล 38 ประการ

“ในพระวินัยบัญญัติไว้ว่าอาบัติ แต่เป็นอาบัติที่เบา อนุโลมได้ ไม่ต้องถึงขั้นอาบัติปาราชิก เพราะการสัมผัสต้องกายบิดร มารดานั้นทำด้วยความเมตตาและห่วงใย ไม่ได้ทำด้วยกามหรือราคะ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ดีของลูกทุกคนควรทำ เพราะถ้าไม่มีโยมแม่ก็ไม่มีหลวงพี่” พระสุลิยาให้แง่คิดหลักธรรม

จากการโพสต์ในเฟซบุ๊กโดยใช้ภาษาไทยจนชาวเน็ตเข้าใจว่าเป็นคนไทย พระสุลิยาชี้แจงว่าโยมแม่เป็นคนเวียงจันทน์ มีญาติเป็นคนไทยใน จ.กาฬสินธุ์ ส่วนโยมพ่อเป็นคนสะหวันนะเขต ประเทศลาว ตนฝึกพูด อ่าน เขียนจากมีเพื่อนสนิทคนไทยแล้วชินไปเอง

“ตอนหลวงพี่เป็นเด็ก ฝึกพูดไทยโดยจำสำเนียงพูดจากเพื่อนคนไทย ยังเขียนไม่ได้ อ่านไม่ออก จนอายุ 10 กว่า เริ่มอ่านไทยออก จึงหาหนังสือธรรมะของไทยมาอ่าน แต่การพิมพ์ หรือเขียนภาษาไทยได้บางตัวอักษรเท่านั้น บางทีมีถูกบ้าง ผิดบ้าง”

ป้อนข้าวโยมแม่ยามป่วย

สำหรับกรณีพระสงฆ์เล่นสื่อโซเชียลพระสุลิยาซึ่งบวชเพราะฐานะยากจนและอยากศึกษาในรสพระธรรมเปิดเผยว่าในพระวินัยของลาวไม่ได้บัญญัติห้ามเล่นหากใช้ในทางที่ดีและเหมาะสม ถือว่าไม่ผิด ไม่ต้องจับสึก เช่น เผยแผ่ธรรมมะ อีกทั้งกล่าวทิ้งท้ายให้หลักธรรมนำไปใช้ในชีวิต

“คนเป็นลูกควรทำดีกับพ่อแม่ เพราะการที่กตัญญูกับบิดามารดาเป็นสิ่งที่ประเสิรฐ มีแต่คนชื่นชม คนเป็นลูกเองก็ได้บุญจากพระอรหันต์ คือ พ่อแม่ของตัวเอง เพราะทำดีเลี้ยงดูพ่อแม่ คือหน้าที่ของลูกทุกคน 

หลวงพี่ลงรูปและคลิปเพื่อให้คำสอนกับเพื่อนในเฟซ ไม่คิดว่าจะมีการแชร์ต่อ ซึ่งหลวงพี่ก็ขออนุโมทนาด้วย อยากให้คนได้ดูแล้วมีกำลังใจ ให้ทำดีกับพ่อแม่ บางคนอาจพูดไม่ดี หรือทำไม่ดีกับพ่อแม่ หลวงพี่ก็อยากให้หันมาดูแลพ่อแม่บ้าง ให้พ่อแม่มีความสุข คนที่อยู่ไกลกันควรโทรหากันให้พ่อแม่ชื่นใจบ้างก็ยังดี แต่เราต้องดูแลด้วยความเมตตาจริงๆ ไม่ใช่แค่คำพูด ต้องทำด้วย”

ชมคลิปจากแหล่งที่มาทีนี่

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1012974#cxrecs_s

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ที่นำข้อมูลดี ๆมาเผยแพร่

พระโสณะท่านได้บิณฑบาตแบ่งภัตตาหารดูแลมารดาที่แก่ชรา

พระสุลิยาท่านเป็นพระแท้ที่รักในชีวิตของความเป็นพระ แม้เป็นพระ แต่ท่านทำเป็นแบบอย่างที่ดีว่าเป็นพระก็ดูแลพ่อแม่ได้  และทำได้ดี เพราะพ่อแม่ได้สวดมนต์ ทำทาน รักษาศีล ตามที่พระลูกชายแนะนำ ใจพ่อแม่ก็เบิกบาน มาให้ธรรมะอย่างน้อยตายก็ไปสวรรค์ตามคติชาวพุทธ

เรื่องการบำรุงบิดามารดานั้นเป็นหนึ่งในมงคลชีวิต 38 ประการ แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเองก็ทรงสรรเสริญ

เรื่องราวเช่นนี้เคยเกิดขึ้นในสมัยพุทธกาล 

ที่พระโสณะ ท่านบิณฑบาตเลี้ยงดูมารดา  โดนเพื่อนพระตำหนิ ความทราบถึงพระพุทธเจ้าท่านจึงตรัสสรรเสริญ พระโสณะท่ามกลางหมู่สงฆ์ว่าพระโสณะทำสิ่งที่ดี ที่ถูก ที่ควร เพราะการอุปฐากเลี้ยงดูบิดามารดาเป็นสิ่งดี

แม้พระพุทธองค์เองในสมัยเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์นามสุวรรณสาม ก็ทรงบำรุงเลี้ยงบิดามารดาตลอดชีวิต การดูแลบิดามารดาไม่ถือว่าผิดพระธรรมวินัย เรื่องนี้จึงยุติลงด้วยดี

พระบรมโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นดาบสสุวรรณสามก็ได้บำรุงเลี้ยงบิดามารดาเช่นกัน

ต้องกราบชื่นชมและอนุโมทนาบุญกับพระสุลิยา พระหัวใจพระยอดกตัญญูที่ท่านคิด พูด ทำแบบพระ  นอกจากท่านจะเข้าใจหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาเป็นอย่างดี ท่านยังมีหัวใจพระบรมโพธิสัตว์ จากคำพูดที่ท่านถ่ายทอดออกมา

"ขณะดูแลโยมแม่ โยมพ่อ พระสุลิยาได้นำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาที่ศึกษามาเป็นธรรมทานให้พ่อแม่ให้รักษาศีล สวนมนต์เป็นประจำ เพื่อจะได้มีกำลังใจและมีแรงสู้กับชะตากรรมของตัวเอง"

ท่านปรารถนาให้ทุกคน หันมาดูแลพ่อแม่ และเอาใจใส่บุพการี  นอกจากนี้ท่านทำเป็นต้นแบบที่ดี เป็นต้นแบบแห่งความกตัญูญู ธรรมะที่ท่านถ่ายทอดมาล้วนมาจากคุณธรรมความดีท่านเช่น

“คนเป็นลูกควรทำดีกับพ่อแม่ เพราะการที่กตัญญูกับบิดามารดาเป็นสิ่งที่ประเสิรฐ มีแต่คนชื่นชม คนเป็นลูกเองก็ได้บุญจากพระอรหันต์ คือ พ่อแม่ของตัวเอง เพราะทำดีเลี้ยงดูพ่อแม่ คือหน้าที่ของลูกทุกคน 

ขอบคุณภาพจาก

www.google.co.th

www.dmc.tv