ชาวพุทธที่ดีย่อมไม่ว่าร้ายกันเองเหมือน"คนฉลาดย่อมไม่เผาเรือนตนเอง"
คนฉลาดจึง ไม่นำไฟในออก ส่วนคนโง่ เผาบ้านตัวเองไม่พอ ยังไปเรียกชาวบ้านมาช่วยกันเผาด้วย http://winne.ws/n19115
ก่อนนางวิสาขา จะลาบิดาไปอยู่กับครอบครัวสามี ธนญชัยเศรษฐีได้ให้โอวาทแก่ลูกสาวซึ่งเป็นถึงโสดาบันว่า ....
"ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า"
หมายความว่า .. อย่าเอาปัญหาของคนในครอบครัวไปเล่าให้คนนอกฟัง และอย่าเอาเรื่องคนนอกที่นินทาคนในครอบครัวมาเล่าให้คนในครอบครัวฟัง ปัญหาระหว่างคนในครอบครัว ก็ต้องให้คนในครอบครัว แก้ปัญหากันเอง ถ้าเอาไปเล่าให้คนนอกฟัง ก็เหมือนสาวไส้ตัวเองให้กากิน คนนอกเขาไม่ใช่คนในครอบครัว มีแต่จะซ้ำเติม ช่วยเผาครอบครัวให้ย่อยยับ
คนฉลาดจึง ไม่นำไฟในออก ส่วนคนโง่ เผาบ้านตัวเองไม่พอ ยังไปเรียกชาวบ้านมาช่วยกันเผาด้วย
แม้ในพระวินัย ซึ่งเป็นธรรมนูญที่พระพุทธเจ้ากำหนดไว้เพื่อใช้ปกครองสงฆ์ ท่านยังกำหนดในพระวินัยในเรื่องนี้เอาไว้อย่างชัดเจนว่า ...
"ภิกษุใด บอกอาบัติชั่วหยาบของภิกษุ แก่อนุปสัมบันเว้นไว้แต่ภิกษุได้รับสมมติ เป็นปาจิตตีย์”
หมายความว่า พระภิกษุรูปใด ทำผิดศีล ห้ามภิกษุด้วยกัน เอาเรื่องนั้นไปบอกแก่คนที่ไม่ได้บวช มิฉะนั้นคนบอกนั้นจะมีความผิดหรืออาบัติด้วย
นั่นคือ ปัญหาของพระ พระก็ต้องแก้ปัญหากันเองเป็นการภายใน ไม่ใช่เอาไปประจาน ประโคมกับคนนอก ให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ จนปัญหาเล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่โต เหมือนเผาบ้านตัวเอง
คนที่ทำแบบนั้น ก็อย่าอ้างแต่ว่าปรารถนาดี เพราะปรารถนาดีเพียงอย่างเดียวมันยังไม่พอ มันต้องไม่โง่ด้วย เพราะการทำแบบนั้นถ้ามันดีมันถูกต้อง ธนัญชัยเศรษฐีคงจะไม่สอนนางวิสาขาแบบนั้น พระพุทธเจ้าคงจะไม่กำหนดสิกขาบทแบบนั้น
มิฉะนั้นจะกลายเป็นปรารถนาดี แต่ประสงค์ร้ายแทน
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1287230471403562&id=100003498636156