ตายแล้วไปไหน ? วัตถุประสงค์ของการจัดงานศพคืออะไร ?

หลักสำคัญการจัดงานศพ หรือทำพิธีสวดพระอภิธรรมนั้นเป็นการส่งบุญไปให้ผู้ตาย สาระจึงคือ ทำให้เกิดบุญ แล้วเอาบุญส่งไปให้ผู้ตาย การฟังสวดพระอภิธรรม อาราธนาศีล ฟังพระสวดพระพุทธมนต์ เหล่านี้เป็นทางมาแห่งบุญทางหนึ่ง http://winne.ws/n19217

2.4 พัน ผู้เข้าชม
ตายแล้วไปไหน ?  วัตถุประสงค์ของการจัดงานศพคืออะไร ?

ตายแล้วไปไหน ?

วัตถุประสงค์ของการจัดงานศพ

    เนื่องจากผู้ตายก็ไม่รู้ว่าตนเองจะไปไหน ส่วนญาติพี่น้องก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์ที่เกิดการสูญเสียขึ้น และรู้สึกเศร้าโศกเสียใจ เพราะฉะนั้นหากมองว่าพิธีกรรมต่างๆ เป็นเพียงการปลอบประโลมใจ แสดงความระลึกถึงกัน ถือเป็นการให้เกียรติผู้ตาย กระทั่งบางที การจัดงานก็กลายเป็นหน้าตาของญาติพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่ กลายเป็น

                “ คนตายขายคนเป็น “

หลักความจริงในทางพระพุทธศาสนาพิธีกรรมภายนอกเหล่านั้นเป็นแค่เปลือก ส่วนสาระคือ 

“ คนตายแล้วเอาอะไรไปไม่ได้เลย “ 

แม้แต่ร่างกาย สิ่งที่เอาไปได้มีเพียง

       “ บุญ กับ บาป ที่ติดอยู่ในกลางใจ “ 

เท่านั้น ดังนั้นสิ่งเดียวที่ญาติพี่น้องควรให้ผู้ตายก็คือ “ บุญ “ เท่านั้น 

บางท่านมัวแต่โศกเศร้า คร่ำครวญ เมื่อตายลง เจ้าตัวก็ทิ้งร่างไป พอจากไปร่างกายนั้นก็เป็นของปฏิกูลน่ารังเกียจ เขาไม่มาสนใจใยดีกายนี้แล้ว เขาไปเป็นกายละเอียดแบบใหม่ของเขาตามตามกำลังบุญ กำลังบาปนั่นเอง 

ตายแล้วไปไหน ?  วัตถุประสงค์ของการจัดงานศพคืออะไร ?

ดังนั้นหากคิดถึงเขาก็ส่งบุญไปให้ด้วยการทำความดี หมั่นสร้างบุญกุศลส่งไปให้เขา

การจะให้ผู้ตายได้อยู่ในบุญ ญาติจึงจัดพิธีสวดพระอภิธรรม โดยธรรมเนียมคือ ๗ วันซึ่งถ้าผู้ตายไม่ได้มีบุญมากจริงๆ หรือ มีบาปหนักจริงๆ ก็จะวนเวียนอยู่ ๗ วัน แล้วจึงไปยมโลกโดยมีเจ้าหน้าที่มารับ ในช่วง ๗ วันนี้เอง ผู้ตายยังมีโอกาสมาฟังสวดพระอภิธรรมได้และยังมีโอกาสรับ บุญ ได้อย่างเต็มที่อีกด้วย นี่จึงเป็น  โอกาสที่ญาติพี่น้องจะรีบทำบุญส่งไปให้เขา  พอครบ ๗ วัน ยมทูต นุ่งผ้าหยักรั้งสีแดง ผมหยิกหยอย ผิวดำ หน้าตาขมึงทึง จะมาคุมตัวไปยมโลกเพื่อรับคำพิพากษา 

ตายแล้วไปไหน ?  วัตถุประสงค์ของการจัดงานศพคืออะไร ?

หลักสำคัญการจัดงานศพ หรือทำพิธีสวดพระอภิธรรมนั้นเป็นการส่งบุญไปให้ผู้ตาย สาระจึงคือ ทำให้เกิดบุญ แล้วเอาบุญส่งไปให้ผู้ตาย 

การฟังสวดพระอภิธรรม อาราธนาศีล ฟังพระสวดพระพุทธมนต์ เหล่านี้เป็นทางมาแห่งบุญทางหนึ่ง เมื่อจับหลักสำคัญตรงนี้ได้แล้ว เราก็จะมีวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้อง

     ความตายไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวเลย หมั่นระลึกถึงความตาย เจริญมรณานุสติทุกๆวัน ทุกๆลมหายใจ เพื่อเราจะได้ไม่ประมาทในการ ละความชั่ว ทำความดี และทำใจให้ผ่องใส

สรุป

ถ้าผู้วายชนม์มีสติ ใจผ่องใส จักมีสุคติเป็นที่ไป

ถ้าผู้วายชนม์ยังมี สติอ่อน ใจไม่ใส ไม่หมอง ก็จะวนเวียนอยู่ ๗ วัน

ถ้าผู้วายชนม์ใจมืดดำ จักมีทุคติเป็นที่ไปทันทีที่ละสังขาร


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10214236443766647&id=1281720771

www.google.co.th

แชร์