อังกฤษแบ่งอินเดีย-ปากีสถานโดยใช้ศาสนาผลที่ตามมา ประเทศแตกเป็น 3ประเทศ แถมสงครามยืดยื้อเรื้อรัง

นับตั้งแต่อินเดียแยกจากกัน เป็น 2 ประเทศความสัมพันธ์ระหว่างอินเดีย-ปากีสถานก็ยังไม่พัฒนาขึ้น นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างกรรมสิทธิ์ในแคชเมียร์ โดยหลังได้เอกราชไม่กี่สัปดาห์ ทั้งสองประเทศก็เริ่มสู้รบกัน เพื่อแย่งชิงหุบเขาแคชเมียร์ http://winne.ws/n20577

7.8 พัน ผู้เข้าชม
อังกฤษแบ่งอินเดีย-ปากีสถานโดยใช้ศาสนาผลที่ตามมา ประเทศแตกเป็น 3ประเทศ แถมสงครามยืดยื้อเรื้อรัง

อังกฤษแบ่งอินเดีย-ปากีสถานอย่างไร?


70 ปีก่อน อังกฤษถอนตัวออกจากอินเดียถือเป็นการสิ้นสุดการเป็นเจ้าอาณานิคม โดยได้แบ่งดินแดนนี้ออกเป็นประเทศที่ปกครองตนเอง 2 ประเทศได้แก่อินเดียและปากีสถาน เหตุใดการแบ่งแยกนี้ถือเป็นโศกนาฏกรรมที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในศตวรรษที่ 20?

ก่อนที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากอินเดีย ซึ่งเป็นดินแดนที่เคยมองว่าเป็นอัญมณีล้ำค่าในบรรดาชาติอาณานิคมของอังกฤษ ในสมัยนั้นอินเดียมีประชากรเกือบ 400 ล้านคน ส่วนใหญ่นับถือศาสนาฮินดู โดยมีประชากรที่นับถืออิสลามมีอยู่ราว 1 ใน 4 อังกฤษตัดสินใจแบ่งดินแดนโดยใช้ศาสนา


นายชวาหะร์ลาล เนห์รู ซึ่งต่อมาได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของอินเดีย ไม่เห็นด้วยในการใช้ศาสนามาแบ่งประเทศ แต่นายมูฮัมหมัด อาลี จินนาห์ ซึ่งต่อมากลายเป็นข้าหลวงใหญ่คนแรกของปากีสถานยืนกรานว่า ชาวมุสลิมต้องมีชาติของตัวเอง

ชวาหะร์ลาล เนห์รู ผู้นำพรรคคองเกรสในสมัยนั้นเดินทางมาหารือกับเจ้าหน้าที่ทางการอังกฤษ

อังกฤษแบ่งอินเดีย-ปากีสถานโดยใช้ศาสนาผลที่ตามมา ประเทศแตกเป็น 3ประเทศ แถมสงครามยืดยื้อเรื้อรัง

ชวาหะร์ลาล เนห์รู ผู้นำพรรคคองเกรสในสมัยนั้นเดินทางมาหารือกับเจ้าหน้าที่ทางการอังกฤษ

ชาวอังกฤษที่อยู่วงในบอกว่า 'การแบ่งประเทศ

เอกราชมาพร้อมกัน' และ 'อย่างหนึ่งเป็นต้นทุนของอีกอย่าง'

ลอร์ด เมาท์แบตเทน ซึ่งเกี่ยวข้องกับราชวงศ์อังกฤษ ได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจนี้ โดยเขาคิดว่าต้องจัดการให้ลุล่วงอย่างเร็วที่สุด จึงจะเป็นผลดีที่สุด ดังนั้นเส้นแบ่งประเทศจึงถูกร่างขึ้นภายในเวลาเพียง 5 สัปดาห์

วันที่ทั้งสองฝ่ายได้รับเอกราชคือ วันที่ 14 และ 15 สิงหาคม 1947

ปากีสถานและอินเดียต่างฉลองเอกราช แต่สองวันหลังจากนั้น เมื่อมีการประกาศว่าเส้นพรมแดนอยู่ที่ไหน ทั้งสองฝ่ายต่างไม่พอใจ

จินนาห์ บอกว่า ดินแดนที่ปากีสถานได้มีลักษณะเหมือน "มอดแทะ" แบ่งเป็น 2 ปีก มีอินเดียขวางกั้นด้วยพรมแดน 2,000 กิโลเมตร

ต่อมาในปี 1971 ปากีสถานตะวันออกแยกตัวเป็นเอกราช กลายเป็นประเทศบังกลาเทศ

อังกฤษแบ่งอินเดีย-ปากีสถานโดยใช้ศาสนาผลที่ตามมา ประเทศแตกเป็น 3ประเทศ แถมสงครามยืดยื้อเรื้อรัง
อังกฤษแบ่งอินเดีย-ปากีสถานโดยใช้ศาสนาผลที่ตามมา ประเทศแตกเป็น 3ประเทศ แถมสงครามยืดยื้อเรื้อรัง

ในช่วงก่อนที่อินเดียและปากีสถานจะได้รับเอกราช เกิดการปะทะกันระหว่างชาวฮินดู และชาวมุสลิม แต่ไม่มีใครคาดว่าจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นในการแบ่งประเทศ มีผู้ลี้ภัยอย่างน้อย 12 ล้านคน อพยพจากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่ง มีผู้เสียชีวิต 5 แสนถึง 1 ล้านคน และมีผู้หญิงหลายหมื่นคนถูกลักพาตัว

อังกฤษแบ่งอินเดีย-ปากีสถานโดยใช้ศาสนาผลที่ตามมา ประเทศแตกเป็น 3ประเทศ แถมสงครามยืดยื้อเรื้อรัง

นับตั้งแต่แยกจากกัน ความสัมพันธ์ระหว่างอินเดีย-ปากีสถานก็ยังไม่พัฒนาขึ้น นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างกรรมสิทธิ์ในแคชเมียร์ โดยหลังได้เอกราชไม่กี่สัปดาห์ ทั้งสองประเทศก็เริ่มสู้รบกัน เพื่อแย่งชิงหุบเขาแคชเมียร์ ถือเป็นความขัดแย้งที่ยังหาทางออกไม่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ และเป็นผลพวงจากความไม่ลงตัวในการแบ่งแยกประเทศ


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก

http://www.bbc.com/thai/international-40815819

อังกฤษแบ่งอินเดีย-ปากีสถานโดยใช้ศาสนาผลที่ตามมา ประเทศแตกเป็น 3ประเทศ แถมสงครามยืดยื้อเรื้อรัง

จากเหตุการณ์ความไม่สงบในอินเดียทำให้เห็นว่า การแบ่งแยกดินแดนโดยใช้ศาสนานอกจากจะไม่ทำให้เกิดความสงบแล้วยังเพิ่มความเลวร้ายไปอีกยาวนาน แม้ปากีสถานเป็นประเทศอิสลามก็ยังวุ่นวายจนต้องแบ่งประเทศออกไปเป็นอีกประเทศคือ"บังกลาเทศ"ซึ่งก็วุ่นวายไม่สิ้นสุดโยงใยถึงพม่าในนามกลุ่มโรฮิงญา จะเห็นได้ว่าการที่ผู้นำศาสนาอ้างดินแเดนศาสนา รังแต่จะสร้างความเดือดร้อน และคนรับกรรมคือประชาชนตาดำ ๆ นั่นเอง 

ลองมองย้อนมาที่เมืองไทย 4 จังหวัดชายแดนใต้ที่มีบางกลุ่มขอแบ่งแยกดินแดนโดยอ้างศาสนา อยากให้มองอินเดียและปากีสถาน 

บังคลาเทศ เป็นอุทาหรณ์ค่ะ

แชร์