เสียงพี่น้องหลายคน บ่นขรมกับน้องสาวที่ตั้งหน้าตั้งตาทำแต่บุญ จนไม่มีสมบัติเหลือให้ลูกสาวคนเดียว

        น้องสาว : ขอบคุณพี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคน ที่เป็นห่วงจ้า แต่ก็คิดดีแล้วค่ะ เพราะว่า ที่ดินที่ได้มาน่ะ เป็นสมบัติของพ่อแม่ที่เขายกให้มา เขาหาด้วยความยากลำบาก กว่าจะเก็บเงินซื้อที่ได้ขนาดนี้ สงสารท่านค่ะ ว่าแม้เวลาตายแล้ว ก็ไม่ได้เอาที่ดินนี้ติดตัวไปได้ เพราะห่วงลูก ๆ ที่มีหลายคน 

         แต่น้องคิดว่า จะตอบแทนสิ่งเหล่านี้ท่านได้อย่างไร จึงคิดว่า ท่านตายไปแล้ว คงต้องการบุญมากกว่าสิ่งใด หากินก็ไม่ได้ หรือไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ อาจจะลำบากมากด้วยหรือเปล่า น้องก็เลยขายที่ดินมรดกนี้ ทั้งหมดแล้วก็ทำบุญให้ท่านค่ะ เผื่อว่าจะได้ช่วยท่านได้ และที่สำคัญคือ

         สิ่งที่น้องได้มานี้ เป็นเพราะบุญที่เราเคยทำมาในชาติก่อน ๆ โน้น ถ้าหากชาตินี้ มีพอกินพอใช้แล้ว ก็ไม่ควรสะสมไว้มากเกินไป ทางที่ดีคือ ขายได้แล้วนำมาทำบุญเพื่อเก็บบุญไว้ในชาติหน้าหรือชาติต่อ ๆ ไปบ้างค่ะ ถ้าเราไม่ทำไว้ ชาติต่อ ๆ ก็จะลำบากหรือเปล่าค่ะ

         ก็ในเมื่อชาตินี้ บุญส่งผลให้มีสมบัติเพราะบุญเก่าที่เคยทำมา ชาตินี้ก็ต้องทำไว้ น้องคิดว่าการขายที่ได้แล้วเทสร้างวัดในพระพุทธศาสนา ไว้สร้างสิ่งดี ๆ ให้กับสังคม ให้ประเทศชาติสำคัญมากค่ะ หากเราดีคนเดียวก็อยู่ยาก ต้องสละทรัพย์มาช่วยกันแบบนี้ ปู่ย่าตายายที่ท่านได้รับบุญจากการขายที่ดินนี้แล้วทำบุญให้ท่าน ท่านคงจะได้บุญมาก และได้กินบุญนี้ระยะยาว ๆ เพราะนำมาสร้างวัดค่ะ

        สำหรับลูกสาว ไม่ได้เก็บที่ดินมรดกปู่ย่าตายายไว้ให้เลย เขาก็รู้ว่านี่เป็นสมบัติของปู่ย่าตายาย เขาก็ยินดี ไม่ได้อยากได้เก็บไว้เป็นของตัวเอง ทำบุญไปก็ดีแล้ว เพราะเขาลำบากสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงกว่าจะได้  และก็คิดว่า เรามีโอกาสทำบุญร่วมกันกับปู่ย่าตายายด้วย ขณะที่ครอบครัวเราเองก็ทำบุญด้วยกันบ่อย ๆ ถ้ามีบุญมาก อะไร ๆ ก็จะเจริญก้าวหน้าเอง เขาก็มีงานการทำแล้ว พออยู่ได้แล้ว ไม่ได้ขัดสนอะไรค่ะ อยากได้อะไรเราก็ร่วมกันหามาใหม่ได้

แหล่งภาพจาก ข่าว ธรรมะ Dhamma News - DMC.tv

ตัวอย่างอุบาสกในสมัยพุทธกาลทำบุญซื้อที่สร้างวัดถวายพระพุทธเจ้า

        อนาถบิณฑิกเศรษฐี หรือ สุทัตตอนาถปิณฑิกคฤหบดี (อ่านว่า: อะ-นา-ถะ-บิน-ทิ-กะ) เป็นชาวเมืองสาวัตถีในสมัยพุทธกาล มีชีวิตร่วมสมัยกับพระพุทธเจ้า เดิมท่านมีนามว่าสุทัตตะเศรษฐี เกิดในตระกูลของสุมนะเศรษฐีผู้เป็นบิดา ท่านเป็นเศรษฐีที่ใจบุญ ชอบช่วยเหลือคนตกยาก ทำให้ท่านถูกเรียกจากชาวเมืองสาวัตถีว่า อนาถบิณฑิกเศรษฐี

แหล่งภาพจาก kalyanamitra.org

        อนาถบิณฑิกเศรษฐี แปลว่า เศรษฐีผู้เป็นที่พึ่งของคนยาก (แปลตามศัพท์ว่า เศรษฐีผู้มีก้อนข้าวให้กับคนยากจน)

         อนาถบิณฑิกเศรษฐี ได้ไปค้าขายและได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าที่เมืองราชคฤห์จนบรรลุเป็นพระโสดาบัน ท่านจึงมีศรัทธาสร้างวัดเชตวันมหาวิหารถวายพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยเงินจำนวนมาก ท่านได้เป็นผู้ให้ความอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์อย่างดีมาก 

         วัดเชตวันมหาวิหาร หรือ วัดพระเชตวัน อารามของบิณฑิกเศรษฐี[1] เป็นอาราม (วัด) ที่สร้างโดยท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี มหาเศรษฐีแห่งเมืองสาวัตถี บนที่ตั้งของเชตวัน หรือสวนเจ้าเชต นอกเมืองสาวัตถี ซึ่งอนาถบิณฑิกเศรษฐีซื้อมาด้วยเงินมากถึง 18 โกฏิ รวมการก่อสร้างวัดแห่งนี้ทั้งหมด 54 โกฏิ เป็นวัดที่มั่นสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาล

ขอบคุณภาพจาก กัลยาณมิตร

       วัดเชตวันมหาวิหารมีอีกชื่อหนึ่งปรากฏในพระสูตรว่า "วัดพระเชตวัน อารามของบิณฑิกเศรษฐี" ที่เรียกเช่นนี้เพื่อให้ทราบว่าวัดนี้เป็นพระราชอุทยานสำหรับเสด็จประพาสของเจ้าเชต เจ้าชายในราชวงศ์โกศลแห่งเมืองสาวัตถี เป็นพระราชอุทยานร่มรื่นนอกตัวเมืองหลวง มีเนื้อที่ 80 ไร่ (32 เอเคอร์)

แหล่งภาพจาก https://pantip.com/topic/33358589

       ปัจจุบันวัดเชตวันมหาวิหารเหลือเพียงซากโบราณสถาน ได้รับการบูรณะจากทางราชการอินเดียเป็นอย่างดี ตั้งอยู่ทางใต้ของแม่น้ำราปติ (Rapti) หรือแม่น้ำอจิรวดีในสมัยพุทธกาล นอกกำแพงเมืองสาวัตถีไปทางทิศใต้ประมาณ 1 กิโลเมตร ที่ ตำบลสะเหต (Saheth) รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย[4]

แหล่งภาพจาก DMC.tv

        พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับจำพรรษาและบำเพ็ญพุทธกิจที่วัดแห่งนี้รวมถึง 19 พรรษา นับว่าเป็นวัดที่พระพุทธองค์ประทับจำพรรษานานที่สุด เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่สัปปายะต่อการเผยแพร่พระพุทธศาสนา เพราะเมืองสาวัตถีในสมัยนั้นเป็นเมืองที่มั่งคั่ง สงบ และมีการอุปถัมภ์บำรุงเป็นอย่างดีจากพระเจ้าปเสนทิโกศล อนาถบิณฑิกเศรษฐี และประชาชนทั้งหลาย

       ในสมัยพุทธกาลท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ได้ทำบุญด้วยเงินจำนวนมหาศาล จนเทวดาต้องตำหนิ เรื่องราวก็มีมาตั้งแต่สมัยพุทธการแล้วก็ไม่แปลกหรอกที่คนเราทำบุญด้วยจิตศรัทธาและจำนวนมากแล้วจะโดนตำหนิ ลองคิดแบบกลับกันถ้าท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี มาเกิดในยุคนี้ล่ะ จะเป็นยัง?????(อ้างอิงจาก : https://pantip.com/topic/35944434)

ฝรั่งริมรั้ววัด

1 ก.พ. 2561

เผยแพร่โดยกองบรรณาธิการwinnews