ชัยชนะครั้งที่ 3 ของพระพุทธเจ้า ชนะช้างนาฬาคีรี ผู้หยาบช้า ดุร้าย ไล่ฆ่ามนุษย์

พระเทวทัตต้องการปกครองสงฆ์เอง ขาดความเคารพในพระพุทธเจ้า จึงคบหากับพระเจ้าอชาตศัตรูและทำสัญญากันว่า "ถ้ามหาบพิตรปลงพระชนม์พระบิดาแล้วเป็นพระราชา อาตมาภาพจะปลงพระชนม์พระพุทธเจ้าแล้ว จักเป็นพระพุทธเจ้า" http://winne.ws/n2877

3.6 พัน ผู้เข้าชม
ชัยชนะครั้งที่ 3 ของพระพุทธเจ้า ชนะช้างนาฬาคีรี ผู้หยาบช้า ดุร้าย ไล่ฆ่ามนุษย์

                                ในพุทธชัยมงคลคาถา บทที่ 3 ได้พรรณนาพุทธคุณไว้ว่า

                                                           "นาฬาคิรี คชวรํ อติมัตฺตภูตํ  

                                                         ทาวคฺคิจกฺกมสนีว   สุทารุณนฺตํ  

                                                      เมตฺตมฺพุเสกวิธินา  ชิตวา  มุนินฺโท  

                                                         ตนฺเตชสา ภวตุ เต ชยมงฺคลานิ.    

        พระผู้มีพระภาคเจ้าจอมมุนี ได้ชัยชนะต่อช้างตัวประเสริฐ ชื่อนาฬาคีรี ซึ่เป็นช้างตกมัน สุดแสนที่จะทารุณร้ายกาจ ด้วยน้ำพระเมตตา ด้วยเดชแห่งชัยชนะของพระพุทธเจ้านั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงบังเกิดมีแก่ท่าน"

        พระบรมศาสดา ทรงมีมหากรุณาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย พระทัยที่เต็มเปี่ยมด้วยความรักและปรารถนาดี มิใช่เกิดเพียงชั่วครั้งชั่วคราว หรือเพียงภพชาติใดชาติหนึ่งเท่านั้น แต่มีต่อเนื่องกันมายาวนานนับชาติไม่ถ้วน จวบจนถึงวันที่พระองค์ได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าผู้เป็นที่พึ่งของโลก

         ไฟไม่ตั้งอยู่ในน้ำ พืชไม่งอกบนหินล้วน ๆ หมู่หนอนไม่ดำรงอยู่ในยาพิษฉันใด ความโกรธย่อมไม่มีแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าฉันนั้น

          สมัยหนึ่ง พระเทวทัตมีความปรารถนาที่จะปกครองสงฆ์เอง ขาดความเคารพในพระพุทธเจ้า จึงคบหากับพระเจ้าอชาตศัตรูและทำสัญญากันว่า "ถ้ามหาบพิตรปลงพระชนม์พระบิดาแล้วเป็นพระราชา อาตมาภาพจะปลงพระชนม์พระพุทธเจ้าแล้ว จักเป็นพระพุทธเจ้า"

         พระเทวทัต สั่งให้คนเลี้ยงช้าง นำเหล้าให้ช้างนาฬาคีรีดื่มถึง 16 หม้อ แล้วให้ปล่อยไปในเวลาที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปบิณฑบาตในกรุงราชคฤห์ เมื่อช้างถูกมอมเหล้า จึงเมาอย่างหนัก เป็นช้างตกมัน ดุร้ายเกรี้ยวกราด ไม่มีใครจะห้ามได้ ทันทีที่ถูกปล่อย มันก็วิ่งตรงไปบนถนน ขณะที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปบิณฑบาตพร้อมพระภิกษุ 500 รูป เดินถึงซอยนั้น ช้างมันชูงวง วิ่งรี่ตรงไปทางที่พระพุทธเจ้าเสด็จดำเนินทันที

        พระภิกษุที่มาบิณฑบาตได้กราบทูลพระพุทธเจ้า "ให้เสด็จกลับ เพราะช้างนาฬาคีรี นี้ดุร้าย หยาบช้า ฆ่ามนุษย์ กำลังวิ่งเข้ามาในซอยนี้" แต่พระพุทธเจ้าตรัสว่า "มาเถิดภิกษุ เธออย่ากลัวเลย ภพชาตินี้ไม่ใช่โอกาส ไม่ใช่ฐานะ ที่บุคคลอื่นจะปลงชีวิตของตถาคตได้ เพราะพระตถาคตทั้งหลายย่อมไม่ปรินิพพานด้วยความพยายามของผู้อื่น" ซึ่งพระภิกษุได้กราบทูลขอให้พระพุทธเจ้าเสด็จกลับถึง 3 ครั้ง แต่พระพุทธเจ้าก็ตรัสคำเดิม พระอานนท์อาสาขอให้ช้างทำร้ายท่านแทนพระพุทธองค์ พระพุทธองค์ต้องตรัสห้ามถึง 3 ครั้ง เช่นกัน

ชัยชนะครั้งที่ 3 ของพระพุทธเจ้า ชนะช้างนาฬาคีรี ผู้หยาบช้า ดุร้าย ไล่ฆ่ามนุษย์

           พระพุทธเจ้าทรงแผ่เมตตาให้กับช้างนาฬาคิรี ช้างได้สัมผัสกระแสแห่งเมตตาธรรมของพระพุทธเจ้า ทำให้สร่างเมาเป็นปลิดทิ้ง ลดงวงลง ค่อย ๆ เยื้องกรายเข้าไปหาพระพุทธเจ้า ยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยความเลื่อมใสอย่างยิ่ง

          พระพุทธเจ้ายกพระหัตถ์ขวาลูบกระพองช้างนาฬาคีรี พลางตรัสว่า "ดูกร กุญชร เจ้าอย่าเข้าไปหาพระพุทธเจ้าด้วยจิตคิดจะฆ่า อันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ในอบาย ผู้ฆ่าพระพุทธเจ้า ตายไปจะไม่มีสุคติเลย เจ้าจงสร่างเมาและอย่าประมาท ผู้ประมาทจะไปสู่สุคติไม่ได้ แม้เจ้าเป็นเดรัจฉาน พบเราครั้งนี้นับเป็นกุศลอย่างยิ่ง ตถาคตนี้อุปมาดังพญาช้างตัวประเสริฐ ประกอบด้วยคุณของพระอรหันต์ เป็นใหญ่ใน 3 โลก ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเจ้าอย่าดุร้ายไล่ทิ่มแทงมนุษย์อีก จงมีเมตตา ยังใจให้โสมนัส อย่าประกอบโทษ จงหมั่นเจริญเมตตาให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป สิ้นชีพแล้วเจ้าจะได้ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์"

           ช้างเมื่อได้ฟังก็มีจิตชื่นชมโสมนัส หากเป็นมนุษย์จะได้บรรลุพระโสดาบัน แต่เพราะเป็นช้าง จึงพลาดจากการได้บรรลุโลกุตรธรรมอันยอดเยี่ยม แต่ก็เป็นอุปนิสัยติดตัวไปชาติหน้า 

         สาธุชนเห็นอานุภาพของพระพุทธเจ้าก็ปลื้มปิติยินดีอย่างมาก ต่างกล่าวว่า " บางคนฝึกช้าง ฝึกม้า ด้วยการใช้ท่อนไม้บ้าง ใช้ขอบ้าง ใช้แส้บ้าง แต่พระพุทธเจ้าทรงทรมานช้างโดยใช้เมตตาธรรม"

         จะเห็นว่าการบังเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้า นั้น เพื่อยังประโยชน์ให้เกิดสันติสุขแก่โลกและสรรพสัตว์ทั้งหลายอย่างแท้จริง


อ้างอิง:หนังสือศาสดาเอกของโลก

ขอบคุณภาพจากwww.google.com

แชร์