เวียนเทียนวันวิสาขบูชาอย่างไรได้บุญมาก

เวียนเทียนในวันวิสาขบูชา : หากไม่มีวันประสูติ ไม่มีเจ้าชายสิทธัตถะ ก็จะไม่มีพระพุทธเจ้า และหากไม่มีวันตรัสรู้ ก็จะไม่มีพระธรรม คำสั่งสอนอันประเสริฐยิ่งมาให้ชาวโลกได้ยึดเหนี่ยว และปฏิบัติตามเพื่อความสงบสุขของชีวิต http://winne.ws/n3207

2.8 พัน ผู้เข้าชม

สาธุชนเตรียมเวียนเทียนรอบองค์พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ร่วมกัน

เวียนเทียนวันวิสาขบูชาอย่างไรได้บุญมาก

วันนี้ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เป็นวัน “วิสาขบูชา” หรือ วันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

การเวียนเทียน คือการเดินเวียนรอบ

       สำคัญ เช่น อุโบสถวิหาร หรือพระพุทธรูปเพื่อระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัยในวันสำคัญ โดยใช้เทียนธูปและดอกไม้เป็นเครื่องสักการบูชา ถือไว้ในมือแล้วเดินเวียน 3 รอบ ขณะที่เดินรอบนั้นพึงตั้งจิตให้สงบ พร้อมสวดระลึกถึงพระพุทธคุณ ด้วยการสวดบท "อิติปิโส" ระลึกถึงพระธรรมคุณ ด้วยการสวด สวากขาโต และระลึกถึงพระสังฆคุณ ด้วยการสวด สุปะฏิปันโน จนกว่าจะเวียนจบ 3 รอบ

        พิธีการเวียนรอบปูชนียวัตถุหรือปูชนียสถานเพื่อเป็นการแสดงความเคารพนั้น ไทยได้รับคตินี้มาจากอินเดียพร้อมกับพระพุทธศาสนา โดยปรากฏหลักฐานการแสดงความเคารพโดยการเวียนเทียนในพระไตรปิฎก ซึ่งใช้คำว่าเวียนประทักษิณาวัตร คือเวียนขวา 3 รอบ เป็นเครื่องหมายถึงการแสดงออกซึ่งการเคารพบูชาต่อสิ่งนั้น ๆ อย่างสูงสุด

        ไทยได้รับคตินิยมนี้มาและปรับประยุกต์ให้เข้ากับพื้นฐานทางวัฒนธรรมของไทยโดยนำมาใช้เป็นการแสดงความบูชาต่อพระรัตนตรัยมาตั้งแต่โบราณ มีหลักฐานปรากฏเป็น "ฐานประทักษิณ" สำหรับการกระทำพิธีเวียนเทียน ในโบราณสถานทางศาสนา มาตั้งแต่สมัยทวารวดี รวมทั้งปรากฏข้อความในพงศาวดารว่ามีการกระทำพิธีเวียนเทียนในวันสำคัญทางศาสนาสืบมาจนถึงปัจจุบัน

เวียนเทียนวันวิสาขบูชาอย่างไรได้บุญมาก

การเวียนเทียน วัดต่าง ๆ มักกำหนดให้เวียนรอบปูชนียสถานสำคัญของวัด เช่นโบสถ์หรือพระเจดีย์

        ทางวัดประกาศให้พุทธบริษัททราบทั่วกัน (ทั้งชาววัดและชาวบ้าน) และบอกกำหนดเวลาประกอบพิธีด้วยว่าจะประกอบเวลาไหน จะเป็นตอนบ่ายหรือค่ำก็ได้แล้วแต่สะดวกเมื่อถึงเวลากำหนด

        ทางวัดตีระฆังสัญญาณให้พุทธบริษัท ทั้งภิกษุ สามเณร อุบาสก และอุบาสิกา ประชุมพร้อมกันที่หน้าพระอุโบสถหรือลานพระเจดีย์ อันเป็นหลักของวัดนั้น ๆ ภิกษุอยู่แถวหน้า ถัดไปสามเณร ท้ายสุดอุบาสก อุบาสิกา จะจัดให้ชายอยู่กลุ่มชาย หญิงอยู่กลุ่มหญิง หรือเปล่อยให้คละกันตามอัธยาศัยก็แล้วแต่จะกำหนด ทุกคนควรถือดอกไม้ธูปเทียน ตามแต่จะหาได้และศรัทธาของตน ควรกะขนาดของเทียนให้จุดเดินได้ จนครบ ๓ รอบสถานที่ที่เดิน ไม่หมดเสียในระหว่างเดิน

         เมื่อพร้อมกันแล้ว ประธานสงฆ์จุดเทียนและธูป ทุกคนจุดของตนตาม เสร็จแล้วถือดอกไม้ธูปเทียนที่จะจุดและประนมมือ หันหน้าเข้าหาปูชนียสถานที่จะเวียนนั้น ๆ แล้วกล่าวคำบูชาตามแบบที่กำหนดไว้ตามประธานสงฆ์จนจบ

        ประธานสงฆ์ประนมมือถือดอกไม้ธูปเทียนเดินนำหน้าแถวไปทางขวามือของสถานที่ที่ เวียนเทียน คือ เดินเวียนไปทางที่มือขวาของตนหันเข้าสถานที่ที่เวียนนั้นจนครบ ๓ รอบการเดินเวียนขวาเพื่อเป็นการแสดงความเคารพอย่างสูง ตามธรรมเนียมอินเดียในสมัยพุทธกาลในแต่ละรอบให้ระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ ตามลำดับดังนี้

คณะพระภิกษุนำญาติสาธุชนเวียนเทียนรอบอุโบสถ

เวียนเทียนวันวิสาขบูชาอย่างไรได้บุญมาก

รอบแรก ระลึกถึงพระพุทธคุณ

                                                อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ

                                                วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู

                                                  อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา

                                                    เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ

(คำแปล) เพราะเหตุอย่างนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นทรงไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว รู้โลกแจ่มแจ้งทรงเป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้อย่างไม่มีใครยิ่ง กว่า ทรงเป็นครูผู้สอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม เป็นผู้มีความจำเริญ จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์ ดังนี้

เวียนเทียนวันวิสาขบูชาอย่างไรได้บุญมาก

รอบที่สอง ระลึกถึงพระธรรมคุณ

                                                    สวากขาโต ภะคะวาตา ธัมโม 

                                                สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก 

                                       โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ

(คำแปล) พระธรรม เป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงได้เห็นได้ด้วยตนเอง เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้และให้ผลได้ไม่จำกัด เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกับผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน ดังนี้

เวียนเทียนวันวิสาขบูชาอย่างไรได้บุญมาก

รอบที่สาม ระลึกถึงพระสังฆคุณ

                                                  สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ

                                                อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ

                                             ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ

                                             สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ

                                       ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา

                                                        เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ

                                        อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชลีกะระณีโย 

                                                   อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ

(คำแปล) พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า หมู่ใด ปฏิบัติดีแล้ว พระสงฆ์สาวกของพระภาคเจ้า หมู่ใด ปฏิบัติตรงแล้ว พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้ว พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า หมู่ใดปฏิบัติสมควรแล้ว

ได้แก่บุคคลเหล่านี้คือ คู่แห่งบุรุษ ๔ คู่ นับเรืองตัวบุรุษได้ ๘ บุรุษ นั่นแหละ พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา เป็นผู้ควรแก่สักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน เป็นผู้ที่บุคคลทั่วไปควรทำอัญชลี เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ดังนี้

เมื่อครบ ๓ รอบแล้ว นำดอกไม้ธูปเทียนไปปักบูชาตามที่เตรียมไว้ ต่อจากนั้นจึงเข้าไปประชุมพร้อมกันในพระอุโบสถหรือวิหารหรือศาลาการเปรียญ แล้วแต่ที่ทางวัดกำหนด เริ่มทำวัตรเย็นและสวดมนต์ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์อย่างพิธีกรรมวันธรรมสวนะ ธรรมดา เสร็จแล้วมีเทศน์พิเศษแสดงเรื่องพระพุทธประวัติและเรื่องที่เกี่ยวกับวัน มาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอัฏฐมีบูชา หรืออาสาฬหบูชา ๑ กัณฑ์ ตามแต่จะเป็นเทศกาลใดเป็นอันเสร็จ

สาธุชนเวียนเทียนรอบพระเจดีย์

เวียนเทียนวันวิสาขบูชาอย่างไรได้บุญมาก

การปฏิบัติตนขณะเดินเวียนเทียน

1. สำรวมกาย วาจา ใจ โดยน้อมใจระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้า ว่ามีคุณอย่างไรกับเรา คือ มีพระปัญญามากอย่างไร มีพระมหากรุณาอย่างไรกับเราและ มีความบริสุทธิ์อย่างไร ไม่พูดคุยกันขณะเดินเวียนเทียน

2. ควรเดินให้เป็นระเบียบ สวยงาม และเมื่อครบ 3 รอบแล้ว ให้นำดอกไม้ธูปเทียนไปวางในที่ที่ทางวัดได้จัดเตรียมไว้ ให้เรียบร้อย ไม่ให้เลอะเทอะสกปรก 

3. เมื่อนำธูปเทียนดอกไม้ไปวาง ให้อธิษฐานจิตอีกครั้ง ตามอัธยาศรัย ก็ได้

เด็กนักเรียนและคณะครูร่วมนำดอกไม้ธูปเทียนเวียนเทียนรอบอุโบสถ

เวียนเทียนวันวิสาขบูชาอย่างไรได้บุญมาก

อานิสงส์ถวายดอกไม้ธูปเทียน

        ในครั้งพุทธกาลก็มีผู้กระทำมาแล้วย่อมมีผลานิสงส์อย่างอเนกประการ คือ นายสุมนมาลากร

มีเรื่องอยู่ว่านายสุมนมาลาการนี้ เก็บดอกมะลิมาถวายพระเจ้าพิมพิสารวันละ ๘ ทะนาน และรับเงิน ๘ กหาปณะต่อวัน ขณะที่เขาเก็บดอกไม้อยู่นั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จออกบิณฑบาตภายในพระนคร พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ ๕๐๐ รูป เป็นบริวาร นายสุมนมาลาการเห็นก็เกิดจิตเลื่อมใสคิดอยากจะทำบุญแก่พระตถาคต แต่ไม่เห็นอย่างอื่นนอกจากดอกไม้ จึงเอาดอกไม้เหล่านั้นบูชาพระองค์ โดยไม่เกรงกลัวพระราชาจะทรงกริ้วโกรธ ถึงแม้จะถูกพระราชาประหารชีวิตก็ยอมตาย

         การบูชาดอกไม้ของนายมาลาการได้กระทำซัดดอกไม้ขึ้นไปในเบื้องบน ของพระตถาคต ๒ กำมือ ดอกไม้เกิดอัศจรรย์ขึ้นไปประดิษฐานเบื้องบนเป็นเพดานกั้นพระเศียรพระตถาคต แล้วก็ซัดไปทางพระหัตถ์ขวา ๒ กำด้านพระปฤษฎางค์ ๒ กำ พระหัตถ์ซ้าย ๒ กำ รวมทั้งหมด ๘ กำดอกไม้เหล่านั้นได้เกิดอัศจรรย์แวดล้อมพระตถาคตอยู่ตลอดเวลา นายมาลาการเห็นดังนั้นก็ยินดียิ่งนัก ได้ถือกระเช้าเปล่า ไปเรือนฝ่ายภรรยาเห็นไม่มีดอกไม้ในกระเช้านายมาลาการบอกแก่ภรรยาว่าได้เอาดอกไม้บูชาพระตถาคตแล้วนางได้ตอบว่าธรรมดาพระราชาเป็นผู้ดุร้าย กริ้วคราวเดียวก็ทำความพินาศให้ถึงความตาย ดังนั้นความพินาศนี้พึงมีแก่เรา เพราะเธอได้ทำกรรมไว้ นางได้อุ้มลูกไปเฝ้าพระราชาทูลขอหย่ากับ นายมาลาการกับพระองค์พระราชาทรงทราบความต่ำทราม แห่งจิตของนาง แล้วก็ทำเป็นกริ้วและอนุญาตให้นางหย่ากับนายมาลาการ 

         แล้วพระราชาได้เสด็จไปสู่สำนักพระศาสดาถวายบังคมทูลอาราธนา พระศาสดาไปรับภัตตาหารในพระราชวังพระศาสดาทรงทราบพระราชหฤทัยของพระราชา พระองค์ ทรงรับอาราธนาแล้วเสด็จไปสู่พระราชวังของพระราชา แต่พระศาสดาทรงพระประสงค์ จะประทับที่พระลานหลวง จะประกาศคุณงามความดีของนายมาลาการพระราชาทรงอังคาส พระศาสดาพร้อมด้วย ภิกษุสงฆ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ตามส่งเสด็จพระศาสดาไปสู่วิหารเสด็จกลับมาตามนายมาลาการ ถวายถึง สาเหตุที่ถวายดอกไม้แก่พระศาสดา พอทราบเรื่องแล้วทรงพระราชทานรางวัลอย่าง ๘ ชนิด มีช้าง ๘ เชือก ม้า ๘ ตัว ทาส ๘ คน ทาสี ๘ คน กหาปณะ ๘ พัน นารี ๘ นาง และเครื่องประดับอย่าง ละ ๘ และบ้านส่วยอีก ๘ หมู่บ้านเป็นอันว่ากรรมดีได้สนองผลให้แก่นายสุมนมาลาการในวันนั้นเอง

https://th.wikipedia.org/wiki/การเวียนเทียน

คลิกดูรายละเอียดได้ที่ http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=3083.0

เวียนเทียนวันวิสาขบูชาอย่างไรได้บุญมาก

วันนี้ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เป็นวัน “วิสาขบูชา” หรือ วันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

         จึงเป็นวันสำคัญที่สุดของชาวพุทธทั่วโลก และจะมีพิธีทำบุญหรือสวดมนต์ภาวนา โดยชาวพุทธทุกๆประเทศอย่างพร้อมเพรียงกัน

         สำหรับประเทศไทยเราจะมีการทำบุญตักบาตรในช่วงเช้าตามวัดวาอารามต่าง ๆ หรือตามสถานที่ที่ทางราชการจัดไว้ให้ เช่น ที่ท้องสนามหลวง ในกรุงเทพมหานคร หรือหน้าศาลากลางจังหวัดเกือบทุกจังหวัด

        ส่วนในช่วงหัวค่ำจะมีการเวียนเทียนรอบพระอุโบสถของวัดทุกวัดทั่วประเทศไทย

ชาวเขาใส่บาตรสามเณร

เวียนเทียนวันวิสาขบูชาอย่างไรได้บุญมาก

        โอกาสนี้ กราบเรียนท่านผู้อ่านที่เป็นชาวพุทธ ว่าถ้ามีโอกาสอย่าลืมออกจากบ้านไปบำเพ็ญบุญ บำเพ็ญกุศลตามที่กล่าวมานี้ด้วย แต่ถ้าไม่มีโอกาสหรือไม่มีจังหวะใด ๆ เลย ก็ขอให้ใช้เวลาสักชั่วครู่หนึ่ง จะกี่นาทีก็ได้ นึกถึงพระพุทธเจ้า เพราะวันนี้ถือได้ว่าเป็นวันของพระองค์ท่านโดยแท้

         หากไม่มีวันประสูติ ไม่มีเจ้าชายสิทธัตถะ ก็จะไม่มีพระพุทธเจ้า และหากไม่มีวันตรัสรู้ ก็จะไม่มีพระธรรม คำสั่งสอนอันประเสริฐยิ่งมาให้ชาวโลกได้ยึดเหนี่ยว และปฏิบัติตามเพื่อความสงบสุขของชีวิต

        สำหรับการเสด็จดับขันธปรินิพพานนั้น ก็ถือเป็นที่สุดแห่งการสั่งสอนของพระองค์ท่าน โดยเฉพาะสัจธรรมที่ว่า เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีผู้ใดหลบเลี่ยงพ้น แม้องค์พระศาสดาผู้ทรงพระบุญญาบารมีมากล้น ก็ยังต้องเสด็จดับขันธปรินิพพาน

ครูนำเด็กมาไหว้พระด้วยดอกไม้บูชาพระ

เวียนเทียนวันวิสาขบูชาอย่างไรได้บุญมาก

ต้นโพธิ์ที่เห็นไม่ใช่ต้นจริง เพราะด้วยระยะเวลากว่า 2 พันปี คงไม่มีต้นไม้ต้นไหนยืนหยัดอยู่ได้...แต่ก็ได้รับการยืนยันว่า ต้นโพธิ์ต้นนี้อายุ 130 ปีกว่าแล้ว และแตกหน่อมาจากต้นโพธิ์ดั้งเดิมโดยตรง

        แม่น้ำเนรัญชราทุกวันนี้ก็ตื้นเขินลงมาก มีแต่ดินทรายเป็นส่วนใหญ่ เหลือเพียงร่องน้ำเล็กๆให้เห็นเท่านั้น...อีกทั้งถ้าจะว่าไป แม่น้ำสายนี้ ก็ไม่กว้างเท่าไรนัก เพราะสามารถมองเห็นอีกฝั่งได้ถนัดชัดเจน

        คฤหาสน์ของนางสุชาดา ผู้ถวายภัตตาหารมื้อล่าสุด ก่อนพระองค์ตรัสรู้ ก็อยู่ใกล้ๆนั่นเอง ทุกวันนี้เป็นเพียงเนินดินสีแดงเนินใหญ่เนินหนึ่ง

        ทุกสิ่งทุกอย่างมีจริงเป็นจริงตามที่เล่าเรียนกันมาในวิชาศีลธรรมทุกประการ นับตั้งแต่ต้นโพธิ์ แม่น้ำ คฤหาสน์นางสุชาดา และ ฯลฯ

        ที่สะดุดใจผมอย่างยิ่งก็คือ สิ่งที่ผมเห็นอยู่ข้างหน้านี้ มิใช่เป็นอะไรที่ใหญ่โตเลย ต้นโพธิ์ก็โพธิ์ธรรมดา แม่น้ำก็ธรรมดาๆ และบ้านเศรษฐีอย่างนางสุชาดาก็มิได้ใหญ่โตไปกว่าบ้านเศรษฐีทั้งหลายในปัจจุบันนี้

ไฉนพระธรรมคำสอนที่ทรงค้นพบระหว่างประทับ ณ บริเวณนี้ จึงอยู่ยั้งยั่งยืน ถ่ายทอดกันมาได้จนถึงปัจจุบันกว่า 2600 ปี?

        แสดงว่าพระธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ท่านเป็นพระธรรมที่ยิ่งใหญ่โดยแท้ เป็น “พระอภิมหาธรรม” ที่เผยแผ่จากต้นโพธิ์เล็กๆต้นหนึ่งไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกได้อย่างเหลือเชื่อ

        เป็นพระธรรมที่ยิ่งใหญ่นับแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน และจะยิ่งใหญ่ต่อไปในอนาคตอันไกลโพ้น       

ชาวพุทธนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบบูชาพระรัตนตรัย

เวียนเทียนวันวิสาขบูชาอย่างไรได้บุญมาก

เนื่องในโอกาสที่วันวิสาขบูชาเวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งในวันนี้ ผมขออาราธนาพระบุญญาบารมีของพระพุทธองค์ โปรดทรงบันดาลให้ชาวพุทธทั่วโลก จงอยู่เย็นเป็นสุขโดยทั่วหน้า

        โดยเฉพาะชาวพุทธในประเทศไทยนั้นไซร้...ขอพระบารมีโปรดช่วยคุ้มครองและดลบันดาลให้ทุกฝ่ายใจเย็นลง สติสัมปชัญญะกลับคืนมา เลิกบาดหมางกัน เลิกคิดร้าย คิดทำลายต่อกัน และหันมาเป็นมิตรกัน ดังเช่น พระบารมีเมื่อครั้งทรงเทศนาโปรดพระประยูรญาติของพระองค์ให้ยุติสงคราม “แย่งน้ำ” ด้วยเถิด

         แม้จะตระหนักดีว่าสงคราม “แย่งอำนาจ” นั้นหนักกว่าสงคราม “แย่งน้ำ” หลายเท่านัก แต่ก็ยังเชื่อในพระบารมีแห่งพระพุทธองค์ว่า จะทรงห้ามได้อีกครั้งหนึ่ง

        ผมคิดว่านี่คงไม่ใช่เป็นคำอธิษฐานของผมคนเดียวเท่านั้น แต่น่า จะเป็นคำอธิษฐานของคนไทยส่วนใหญ่ในขณะนี้ ที่อยากเห็นความสงบสุขเกิดขึ้นแก่ชาติบ้านเมืองของเราเสียที..


อ้างอิง:http://www.thairath.co.th/content/422226

ขอบคุณภาพจาก www.google.com

แชร์