พระเครื่อง วัดป่าเลไลยก์
เหรียญหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ นั้นเป็นเหรียญที่เลื่องลือในหมู่นักสะสมพระ ซึ่งถูกปลุกเสกโดย"หลวงพ่อสอน" พระเกจิผู้ทรงพุทธาคม http://winne.ws/n701
เหรียญหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ รุ่นแรกนี้ จึงได้รับปลุกเสกโดย "หลวงพ่อสอน" พระเกจิผู้ทรงพุทธา ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ ด้านหน้า จำลองรูปหลวงพ่อโต พระประธาน ในปางป่าเลไลยก์ (ปาลิไลยก์) มีรูปช้างถวายกระบอกน้ำ ลิงถวายรวงผึ้ง ตกแต่งพื้นหลังอย่างสวยงาม ด้านหลังเป็นยันต์พระเจ้าห้าพระองค์อ่านว่า "นะ โม พุท ธา ยะ" ต่อมาลงมาเป็นปีที่สร้าง "๒๔๖๒" และอักษรไทยชื่อพระประธานว่า "หลวงพ่อวัดป่าเรไร"
สำหรับคนที่อยู่ในวงการพระเครื่อง และติดตามเกจิอาจารยืดัง นั้นหากไปสุพรรณบุรีแล้วก็คงจะต้องไปกราบ "หลวงพ่อโต"วัดป่าเลไลยก์ ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอย่างแน่นอน
การสร้างวัตถุมงคล "หลวงพ่อโต ที่วัดป่าเลไลยก์" นั้น มีมาทุกยุคทุกสมัย ซึ่งล้วนคงความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระหลวงพ่อโตมาเสมอ แต่ "เหรียญหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ รุ่นแรก" ที่จะกล่าวถึงนี้ นับเป็นเหรียญเก่าแก่ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เป็นเหรียญพระพุทธอันดับหนึ่งของจังหวัด ที่ปัจจุบันหาดูหาเช่าได้ยาก ซึ่งนอกจากวัตถุประสงค์การจัดสร้างแล้ว อาจเป็นด้วยพระเกจิผู้ปลุกเสก คือ "หลวงพ่อสอน" อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 2 ของวัดป่าเลไลยก์ ผู้เป็นที่เคารพศรัทธาอย่างมากของชาวสุพรรณบุรี
พระครูโพธาภิรัต หรือ หลวงพ่อสอน เป็นชาวบ้านค่ายเก่า จ.สุพรรณบุรี อยู่เหนือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ไปราว 100-200 เมตร เกิดในราวปี พ.ศ.2408 โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายสิน-นางนิ่ม ตอนเด็กๆ ศึกษาร่ำเรียนหนังสือไทยและอักขระขอมที่วัดประตูสาร เมื่ออายุครบบวชในปี พ.ศ.2429 จึงอุปสมบทที่วัดประตูสาร
หลวงพ่อสอนเป็นพระภิกษุที่ใฝ่ใจในการศึกษา ท่านมีโอกาสได้เรียนวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงพ่อกล่ำ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์ พระเกจิผู้ทรงพุทธาคม แล้วข้ามฟากมาเรียนพระปริยัติธรรมที่วัดสุวรรณภูมิ และมาจำพรรษาวัดไชนาวาส (วัดชายนา) เพื่อศึกษาเพิ่มเติม ครั้นเมื่อทราบว่า หลวงพ่อเนียม วัดน้อย อ.บางปลาม้า เป็นพระเกจิชื่อดังที่เก่งกล้าด้านวิปัสสนากรรมฐานและพระปริยัติธรรม ก็เดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อศึกษาจนแตกฉานอีกด้วย
ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็น "พระครูวินัยธร"ฐานานุกรมของพระวิบูลย์เมธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ได้ระยะหนึ่ง ขณะนั้นวัดป่าเลไลยก์ก็เริ่มชำรุดทรุดโทรมมากอีกทั้งไม่มีพระจำพรรษา คณะสงฆ์พิจารณาเห็นว่า ถ้าปล่อยไว้เช่นนี้วัดป่าเลไลยก์ต้องร้างไป อย่างแน่นอน จึงมีมติแต่งตั้งให้ "พระครูสอน" ไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์ ในปีพ.ศ.2456 เพื่อฟื้นฟูสภาพวัดโบราณให้คงอยู่สืบไป
เมื่อเข้าปกครองดูแลวัดป่าเลไลยก์ หลวงพ่อสอนก็เริ่มพัฒนาวัดโดยทันที เริ่มจากสร้างศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ หอสวดมนต์ พระอุโบสถ และขุดบ่อน้ำ 3 บ่อ รวมทั้งเสนาสนะต่างๆ ตามลำดับ ซึ่งทำวัดเจริญรุ่งเรืองมาถึงทุกวันนี้
นอกจากนี้ท่านยังพัฒนาด้านการศึกษา โดยริเริ่มการศึกษาทั้งด้านพระปริยัติธรรมและการสอนภาษาไทยขึ้นในจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นที่เคารพศรัทธาอย่างยิ่งของชาวสุพรรณบุรีและใกล้เคียง สมณศักดิ์สุดท้ายได้เป็น "พระครูโพธาภิรัต" ก่อนมรณภาพ เมื่อปี พ.ศ.2475 สิริอายุ 67 พรรษา 46
ท่านสร้างวัตถุมงคลไว้พอสมควร ซึ่งล้วนเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางและหายากยิ่งในปัจจุบัน เช่น เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก ปี พ.ศ.2461, เหรียญพระพุทธหลวงพ่อโตรุ่นแรก ปี พ.ศ.2462, เหรียญรูปเหมือนทรงอาร์ม ปี พ.ศ.2470 ฯลฯ
สำหรับเหรียญหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ รุ่นแรกนี้ มีความสำคัญคือ จัดสร้างในวาระที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) โปรดเกล้าฯ ยกฐานะ "วัดป่าเลไลยก์" ขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2462 ยังความปลาบปลื้มมาสู่ชาวตำบลรั้วใหญ่และชาว จ.สุพรรณบุรี ยิ่งนัก ในการนี้จึงได้จัดให้มีการเฉลิมฉลอง "หลวงพ่อโต" อย่างยิ่งใหญ่ โดยมีการจัดสร้าง "เหรียญหลวงพ่อโต" ขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อแจกจ่ายเป็นที่ระลึก ความสำคัญประการที่สอง ก็คือ สมัยนั้นเป็นสมัยที่หลวงพ่อสอน เป็นเจ้าอาวาส ดังนั้น เหรียญหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ รุ่นแรกนี้ จึงได้รับปลุกเสกโดย "หลวงพ่อสอน" พระเกจิผู้ทรงพุทธาคมและเป็นที่เคารพศรัทธายิ่งของสาธุชนนั่นเอง
เหรียญหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ รุ่นแรก ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ ด้านหน้า จำลองรูปหลวงพ่อโต พระประธาน ในปางป่าเลไลยก์ (ปาลิไลยก์) มีรูปช้างถวายกระบอกน้ำ ลิงถวายรวงผึ้ง ตกแต่งพื้นหลังอย่างสวยงาม ด้านหลังเป็นยันต์พระเจ้าห้าพระองค์อ่านว่า "นะ โม พุท ธา ยะ" ต่อมาลงมาเป็นปีที่สร้าง "๒๔๖๒" และอักษรไทยชื่อพระประธานว่า "หลวงพ่อวัดป่าเรไร"
ปัจจุบันยังคงเป็นที่ใฝ่ฝันของนักนิยมที่จะสะสมพระเครื่องและเหรียญโดยเฉพาะชาวสุพรรณบุรีที่มีจิตศรัทธาต่อพระเดชพระคุณท่านยิ่งนัก
ขอขอบคุณภาพและข่าวจาก : http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1458530305
และภาพจาก : https://www.google.co.th