พระเจดีย์ชเวดากอง หลักฐานการเอาชีวิตเป็นเดิมพันเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา ณ แผ่นดินพม่า
สิ่งที่ชาวพม่ายอมไม่ได้ คือ การถูกย่ำยีพระพุทธศาสนา เพราะนั่นหมายถึงการย่ำยีหัวใจของชาวพม่า เรียกได้ว่า เหตุการณ์ในครั้งนั้น เป็นเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ของการรักษาพระพุทธศาสนา ด้วยการเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ในแผ่นดินพม่า http://winne.ws/n7465
มหาเจดีย์ชเวดากอง ทีตั้งตระหง่านส่องแสงเหลืองอร่าม ณ กรุงย่างกุ้ง เป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุ รวม 8 เส้น ของพระพุทธเจ้า มีประวัติตำนานเก่าแก่กว่า 2,000 ปี เหนังสือ Guinness Book of Records ได้จัดให้พระเจดีย์ชเวดากองเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก
ทุก ๆ เช้า เริ่มต้นวันสว่างตั้งแต่เวลาตี 4 ทั้งพระภิกษุ สามเณร แม่ชี และชาวพม่า จะเดินทางออกจากบ้าน มาสวดมนต์ นั่งสมาธิ (Meditation) บูชาพระเจดีย์ และช่วยกันปัดกวาด ทำความสะอาดพระเจดีย์ ซึ่งคนจะมากันมาก ในช่วงเช้ามืดก่อนไปทำงาน กับช่วงเย็นเวลาหลังเลิกงานตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึงเวลา 3 ทุ่ม ชาวพม่าจะมาสวดมนต์ นั่งสมาธิ เหมือนช่วงเช้ามืด
พอเวลาประมาณ 1 ทุ่ม จะมีหนุ่มสาวชาวพม่าจำนวนมาก มาช่วยกันกวาดถู ทำความสะอาดพระเจดีย์ กวาดกันเป็นทิวแถว อย่างพร้อมเพรียง
เวลาของการทำความสะอาดพระเจดีย์จะเป็นเวลาแห่งความสนุกสนาน ที่ทุกคนรอคอยจะเก็บบุญสุดท้ายก่อนกลับเข้าบ้านเพื่อพักผ่อน โดยทุกคนจะเอาไม้กวาดและผ้ามาเอง ทำกันอย่างพร้อมเพรียง เมื่อถึงเวลานอน ชาวพม่าจะหันศีรษะไปทางทิศที่เจดีย์ชเวดากองตั้งอยู่ เพื่อทำความเคารพและบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ และเป็นวัฒนธรรมชาวพุทธของชาวพม่า ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องปฏิบัติ โดยไม่เลือกชั้น วรรณะ หรือเผ่าพันธุ์ คือ ประเพณีการถอดรองเท้าเข้าวัด รวมถึงถุงเท้า และถุงน่องก็ห้ามใส่ ชาวพม่าจะถือเคร่งครัดมาก ไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ หากเป็นนักท่องเที่ยวเผลอสวมรองเท้าเดินเข้าเขตวัด เขาจะร้องทัก ตักเตือน ให้ถอดทันที โดยไม่ดูดาย เพราะถือว่า เป็นหน้าที่ของเขาที่จะรักษาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มิให้ผู้ใดล่วงละเมิดได้
มีเรื่องเล่าว่า เมื่อสมัยอังกฤษปกครองพม่า ข้าหลวงอังกฤษได้แวะเยี่ยมชมเจดีย์ชเวดากอง โดยไม่ยอมถอดรองเท้า ด้วยถืออำนาจว่าตนเป็นผู้ปกครอง แต่ชาวพม่าไม่ยอม ทางฝ่ายข้าหลวงก็ยังยืนยันความคิดเดิมของตัว เป็นเหตุให้ชาวพม่าจำนวนหมื่นกว่าคน พากันมานอนคว่ำอยู่ตามบันไดที่จะเดินขึ้นสู่องค์พระเจดีย์ ตลอดจนลานเจดีย์ชเวดากองเต็มไปหมดไม่เห็นพื้นเลย หากข้าหลวงอังกฤษจะขืนสวมรองเท้าขึ้นไปจริงๆ พื้นรองเท้าจะไม่มีโอกาสสัมผัสพื้นได้เลย ต้องเหยียบร่างของชาวพม่าไปก่อน
ชาวพม่าถือว่า แม้ว่าประเทศของตนจะตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ แต่สิ่งที่ชาวพม่ายอมไม่ได้ คือ การถูกย่ำยีพระพุทธศาสนา เพราะนั่นหมายถึงการย่ำยีหัวใจของชาวพม่า เรียกได้ว่า เหตุการณ์ในครั้งนั้น เป็นเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ของการรักษาพระพุทธศาสนา ด้วยการเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ในแผ่นดินพม่า ทำให้ข้าหลวงและทหารอังกฤษยอมถอดรองเท้าเข้าวัดในประเทศพม่า และถือได้ว่า เป็นชัยชนะทางวัฒนธรรม ที่ชาวพม่าภูมิใจบอกเล่าเรื่องราวจากบรรพบุรุษสู่ยุคปัจจุบัน ด้วยความภาคภูมิใจ และยังคงรักษาวัฒนธรรมนี้ มาจนถึงปัจจุบัน
ประเทศพม่า เป็นแบบอย่างประเพณีที่ดีงามของชาวพุทธ และถ้าหากชาวพุทธทั่วโลก มีศรัทธามั่นคง และมีสำนึกที่ดี ในการปกป้องพระพุทธศาสนา โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เหมือนพุทธศาสนิกชนชาวพม่า ในคราวที่รักษาธรรมเนียมการถอดรองเท้าเข้าพระเจดีย์แล้ว เราก็มั่นใจได้ว่า “พระพุทธศาสนาจะต้องมีความยั่งยืนมั่นคงตลอดไป”
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก http://www.dmc.tv/pages/latest_update/Myanmar_Buddhism_2.html