ทำไม..การทำบุญถวายกระแสไฟฟ้าวัดถึงได้บุญมาก ?

การถวายกระแสไฟฟ้าวัด ถือเป็นการถวายต้นกำเนิดของงานพระพุทธศาสนาทั้งหมดก็ว่าได้ ประดุจหากโลกนี้ขาดดวงอาทิตย์ฉันใด มนุษย์ทุกคนก็คงไม่ต่างอะไรกับคนตาบอดฉันนั้น... http://winne.ws/n14513

1.2 หมื่น ผู้เข้าชม
ทำไม..การทำบุญถวายกระแสไฟฟ้าวัดถึงได้บุญมาก ?

การถวายกระแสไฟฟ้าวัด ถือเป็นการถวายต้นกำเนิดของงานพระพุทธศาสนาทั้งหมดก็ว่าได้ ประดุจหากโลกนี้ขาดดวงอาทิตย์ฉันใด มนุษย์ทุกคนก็คงไม่ต่างอะไรกับคนตาบอดฉันนั้น...

ดังนั้น..ไฟฟ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นในการอำนวยความสะดวกในการบำเพ็ญศาสนกิจของสงฆ์ ของวัด ของสาธุชนทุกคน ตั้งแต่การหุงต้มอาหาร การศึกษาพระบาลี การซักรีด การผลิตสื่อธรรมะ การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด

ทำไม..การทำบุญถวายกระแสไฟฟ้าวัดถึงได้บุญมาก ?

และที่สำคัญ..ถ้าขาดไฟฟ้าแล้ว อุปกรณ์การสื่อสารทั้งหมดก็จะหมดหนทางในการใช้ อาหารทั้งหมดที่อยู่ในตู้แช่ก็จะเน่าเสีย พูดง่ายๆ ก็คือ ระบบทุกอย่างจะถูกชัตดาวน์.!!!

ด้วยเหตุนี้..จึงไม่แปลกว่าทำไมผู้ที่ให้กระแสไฟฟ้ากับวัดถึงได้บุญมาก และด้วยอานิสงส์นี้เอง จะทำให้ผู้ทำมีชีวิตที่เจริญรุ่งเรืองสว่างโชติช่วง ประทีปชีวิตไม่ดับลงง่ายๆ เป็นผู้ไม่เศร้าหมอง แม้ตกทุกข์ได้ยากก็จะมีคนคอยช่วยเหลือจนสามารถพบทางออก ชีวิตไม่ตกอับมืดมน ไม่เกิดในถิ่นทุรกันดาร จะสะดวกสบายในทุกสถานที่ที่ตัวเองไป สามารถปฏิบัติธรรมได้สะดวกบรรลุมรรค ผล นิพพานได้เร็ว

ทำไม..การทำบุญถวายกระแสไฟฟ้าวัดถึงได้บุญมาก ?

นอกจากนี้..การถวายกระแสไฟในพระพุทธศาสนา จะทำให้ผู้ทำเกิดไปกี่ภพกี่ชาติก็จะสายตาดี ไม่มีความบกพร่องในการมองเห็น มีดวงปัญญาสว่างไสว เมื่อละจากโลกนี้ไปแล้ว ก็จะไปบังเกิดในวิมานที่สว่างไสว เกิดเป็นเทวดาที่มีรัศมีกายสว่างไสวกว่าเทวดาตนอื่น สามารถเข้าถึงความเป็นเลิศด้านทิพยจักขุ เหมือนพระอนุรุทธเถระ เพราะท่านชอบทำบุญถวายประทีปให้แสงสว่างแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาหลายพระองค์ ตั้งแต่สมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสุเมธะ ท่านก็ได้ถวายประทีปแสงสว่างบูชาท่าน ส่วนในสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากัสสปะ ท่านก็ได้เวียนประทักษิณบูชาพระเจดีย์ด้วยถาดประทีปโคมไฟที่บรรจุน้ำมัน

จะเห็นว่าบุญจากการถวายประทีปหรือถวายแสงสว่างไว้ในพระพุทธศาสนาถือเป็นบุญที่มีอานิสงส์ยิ่งใหญ่มาก เพราะถือเป็นการถวายต้นกำเนิดของงานพระพุทธศาสนาทั้งหมดก็ว่าได้ ประดุจหากโลกนี้ขาดดวงอาทิตย์ฉันใด มนุษย์ทุกคนก็คงไม่ต่างอะไรกับคนตาบอดฉันนั้น...

Cr. ร.ลิ่วเฉลิมวงศ์ สำนักสื่อธรรมะ


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก

http://dhamma-media.blogspot.jp/2017/04/blog-post_29.html?m=1

แชร์