"พ่อผู้ที่อ่านหนังสือไม่ออกสักตัว"แต่สร้างลูกให้เป็นอัจฉริยะ
คุณพ่อของหวังจื้อห้าวถือปากกาไว้ ใบหน้าเคร่งเครียด ถือสมุดรายชื่อหมุนรอบแทบจะ 360 องศา ก็ยังไม่รู้ว่าจะเซ็นลงตรงไหน คุณครูคิดว่าเขาหารายชื่อของหวังจื้อห้าวไม่พบ ใช้นิ้วชี้ให้ดูทันทีพร้อมพูดว่า "คุณพ่อเซ็นชื่อช่องนี้เลย" http://winne.ws/n19237
ในการประชุมผู้ปกครองของโรงเรียน
7.00 น. ผู้ปกครองนักเรียนทยอยกันมาถึง เซ็นชื่อรายงานตัว หาที่นั่งของเด็กตนเองแล้วนั่งลง
ตอนลงชื่อรายงานตัว ผู้ปกครองบางคนมารยาทดี บางคนไม่เห็นผู้อื่นอยู่ในสายตา บางคนละเอียดรอบคอบกับสิ่งเล็กน้อยเกินไป บางคนอวดเบ่งทำตัวราวกับข้านี่แหละผู้ยิ่งใหญ่
การประชุมเริ่ม 7.30 น. ใกล้จะถึงเวลา คุณครูเงยหน้ามองนาฬิกาบนผนังถี่ขึ้น คอยตอบคำถามทั่วๆไปของผู้ปกครอง เมื่อถึงเวลาแล้ว คุณครูให้สัญญานให้ทุกคนอยู่ในความสงบ ประตูได้ถูกปิดลงอย่างเบาๆช้าๆ คุณครูทำการทดลองเสียง กำลังอ้าปากจะพูด ประตูที่พึ่งถูกปิดลง ก็ค่อยๆเปิดออกอีกครั้ง
เป็นผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่ง แสดงตัวอยู่หน้าประตู ทั้งตัวคลุกไปด้วยฝุ่น ใบหน้ายิ้มเจื่อนๆ ใช้สำเนียงแหบแห้งพูดกับคุณครูว่า
" ขออภัยครับ "
แม้เสียงไม่ดัง แต่กลับเรียกความสนใจจากผู้ปกครองคนอื่นๆทั้งหมดล้วนหันไปมอง เห็นเขาสวมเสื้อทำงานสีน้ำเงินที่สีตกจนซีดแล้ว บนเสื้อมีรอยคราบสีเป็นจ้ำๆ ส่วนกางเกงเปื้อนไปด้วยฝุ่น ข้างหนึ่งห้อยลงอีกข้างถลกขึ้น สวมรองเท้าบูท มีโคลนดินติดไปทั่ว แค่เห็นก็รู้ได้ว่า..มาจากสถานที่ก่อสร้าง
" ผู้ปกครองท่านนี้ ขอเรียนถามว่า ลูกของท่านคือ.."
ผมเป็นพ่อของ "หวังจื้อห้าว"
" อ้อ..คุณครูแสดงความแปลกใจออกมาทางสีหน้า "
"ขอเรียนถามคุณครูครับว่า ผมต้องนั่งตรงไหน ? "
"อ้อ..นั่งที่ว่างที่อยู่ขวามือของคุณได้เลย "
พูดจบคุณครูหันกลับไปมองคุณพ่อของหวังจื้อห้าว แล้วพูดว่า
"รบกวนคุณพ่อเซ็นชื่อรายงานตัวด้วย ปากกาอยู่นี่แล้ว "
คุณพ่อของหวังจื้อห้าวถือปากกาไว้ ใบหน้าเคร่งเครียด ถือสมุดรายชื่อหมุนรอบแทบจะ 360 องศา ก็ยังไม่รู้ว่าจะเซ็นลงตรงไหน
คุณครูคิดว่าเขาหารายชื่อของหวังจื้อห้าวไม่พบ ใช้นิ้วชี้ให้ดูทันทีพร้อมพูดว่า
"คุณพ่อเซ็นชื่อช่องนี้เลย"
" คุณ...คุณครูครับ คือ..ผม..ผมอ่านหนังสือไม่ออกครับ "
พูดจบ พ่อของหวังจื้อห้าวก้มหัวลงต่ำมากๆ พร้อมเสียงหัวเราะ ดังทั่วห้องประชุม
" อ้อ ! ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ผมเซ็นแทนแล้วกัน เรียนเชิญคุณกลับไปนั่งที่ของหวังจื้อห้าว "
ผู้ปกครองทุกท่าน การประชุมผู้ปกครองในวันนี้ เป็นครั้งสุดท้ายของเทอมแล้ว ขอบคุณผู้ปกครองทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ และสนับสนุนกิจกรรมตลอดมา
วันนี้ เรื่องยาวขอพูดสั้นๆ ก็คือ..ใคร่ขอเรียนเชิญผู้ปกครองที่มีเด็กผลการเรียนดี ขึ้นมาบอกเล่าวิธีการและเคล็ดลับในการ อบรมสั่งสอนเด็กของท่านเป็นอย่างไรบ้าง?
ห้องเรียนเกิดเสียงฮื่อฮาโกลาหล คุณครูโบกมือไปมา เพื่อให้อยู่ในความสงบ "
แล้วคุณครูก็เรียกชื่อผู้ปกครองของ
"หวังจื้อห้าว" ขึ้นเวที ห้องเรียนก่อนหน้าที่มีแต่เสียงเจี๊ยวจ๊าวก็เงียบลงในทันใด
นี่เป็นเรื่องที่นอกเหนือความคาดหมายมาก เขามอมแมมปานนี้ ทำไมลูกของเขาถึงมีผลการเรียนที่ดีเด่นดีเลิศได้
คุณพ่อของหวังจื้อห้าว งอเอวแล้วลุกขึ้นอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ด้วยความประหม่า ยามก้าวเดินออกมา เท้าไปเตะเก้าอี้ล้มลง เขารีบพูด
"ขออภัย ขออภัยหลายครั้ง รีบยกเก้าอี้ตั้งตรง จึงเดินก้าวไปที่แท่นพูดอย่างช้าๆ
" เอ่อ อืม..." พ่อของหวังจื้อห้าว เริ่มด้วยเสียงแหบแห้ง สายตาไม่กล้ามองไปทางผู้ปกครองคนอื่นๆที่นั่งอยู่ด้านล่าง
" หวังจื้อห้าว เป็นเด็กนักเรียนในชั้นที่มีผลการเรียนที่ดีที่สุด ผลการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของเขา อยู่ที่อันดับหนึ่งมาโดยตลอด เด็กคนนี้ขยันขันแข็งมาก ไม่เคยมาสาย ยามเล่นก็เล่นอย่างสนุกสนาน "
"ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ มาฟังว่า ผู้ปกครองของหวังจื้อห้าว เขามีวิธีอบรมสั่งสอนเด็กของเขาอย่างไรบ้าง?" คุณครูกล่าว
"ปะ...ประสบการณ์ผมไม่รู้จักหรอกครับ ผมเพียงแต่ชอบนั่งมองดูลูกทำการบ้านทุกวันหลังเลิกงาน ไม่ว่าจะเหนื่อยเพียงใด ผมก็จะนั่งอยู่ข้างๆเด็ก แล้วดูเขาทำการบ้าน"
พ่อของจื้อห้าวหยุคชั่วครู่ หันไปมองคุณครู คุณครูยิ้มตอบแสดงท่าทางให้เขาพูดต่อ
มีวันหนึ่ง ลูกชายถามผมว่า
" พ่อ ทุกวันนั่งอยู่ข้างผม แล้วดูผมทำการบ้าน การบ้านนี้พ่อดูเข้าใจหรือไม่? "
ผมตอบว่า " ผมดูไม่เข้าใจ "
ลูกชายถามอีกว่า "ในเมื่อพ่อดูไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ แล้วพ่อรู้ได้อย่างไรว่า ผมทำได้หรือไม่ได้? "
ผมตอบว่า
" หากลูกของผมทำอย่างรวดเร็ว จับปากกาขึ้นมาแล้วเขียน เขียน เขียนผมก็รู้ว่า คำถามข้อนี้ทำได้ และทำได้โดยง่าย หากลูกชายผม ต้องเดินไปเปิดพัดลม จะไปดื่มน้ำ ผมก็รู้ว่า คำถามข้อนี้ทำยาก "
"ผมมีอาชีพทำงานก่อสร้าง ปกติแล้วงานยุ่งมาก หากจะพูดถึงการอบรมสั่งสอนแล้วก็มีแค่ปกติจะพูดคุยกับลูกบ้าง ทุกครั้งที่ลูกมามองดูผมหาบหิน ขุดดิน ผมก็จะพูดคุยกับลูกในเวลานั้น "
ผมถามว่า
"ลูกเอ๋ย ลูกคิดอยากเหมือนท่านประธานฯที่ได้ไปต่างประเทศหรือไม่?"
ลูกตอบว่า "คิดครับ" ผมก็จะบอกว่า "ถ้าอย่างนั้น ต้องตั้งใจเรียนหนังสือนะ "
เห็นรถราที่วิ่งอยู่บนท้องถนน ที่ขับได้เร็วๆ คันยาวๆ สีดำๆเป็นเงางาม ผมก็จะถามลูกว่า "อยากขับรถแบบนี้หรือไม่? "
ลูกตอบว่า " อยากครับ "
ผมจะพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นต้องตั้งใจเรียนหนังสือนะ"
"ผมเองไม่เคยเรียนหนังสือ ไม่รู้จักหนังสือสักตัว หาเหตุผลลึกซึ้งมาอบรมสั่งสอนเด็กไม่เป็น ได้แต่อาศัยเวลายามทำงาน
เห็นอะไรก็คุยกับลูกอย่างนั้น เมื่อเห็นลูกพยักหน้าไม่หยุคผมก็จะดีใจมาก เมื่อผมดีใจก็ชอบที่จะลูบหัวเขา"
"ลูกชายชอบนั่งยองๆอยู่ข้างกายผม ดูผมทำงาน บางครั้ง ยังรินน้ำให้ผม น้อยครั้งที่ผมจะให้เงินลูกใช้จ่าย แทบจะไม่ให้เลย โดยส่วนมากแล้ว ลูกชายจะทำงานบ้าน บางครั้งยังช่วยผมซักเสื้อผ้า"
"ผมเป็นคนทำงานก่อสร้าง ทั่วทิศก็คือบ้านผม ทำงานที่ไหนบ้านก็อยู่ที่นั่น พูดถึงประสบการณ์ ผมไม่มีจริงๆ ผมเพียงแค่ชอบคลุกคลีกับลูก"
"ชอบดูเขาทำการบ้าน ชอบที่จะลูบหัวเขา ชอบบอกเขาว่า รู้จักขอบคุณโรงเรียน ต้องขอบคุณคุณครูที่อบรมสั่งสอนลูกของผมได้ดีเช่นนี้ เข้าใจเรื่องราวต่างๆ คุณครู ต้องลำบากนานมากแล้ว "
พูดจบเขาหันไปโค้งคำนับคุณครูหนึ่งครั้ง การโค้งคำนับของเขาครั้งนี้สะเทือนเข้าไปในหัวใจของกลุ่มผู้ปกครองที่อยู่ในห้อง!
ทำให้พวกเขาคิดได้ว่า พวกเราที่เป็นผู้ปกครอง ไหนเลยจะเคยคิดโค้งคำนับให้กับคุณครู ไหนเลยจะเคยคิดกล่าวคำ "ขอบคุณ" แก่คุณครู ไหนเลยจะเคยคิดกล่าวคำ "ลำบาก" คุณครูมากแล้ว
ผลการเรียนของลูกไม่ดี มักโทษคุณครูอบรมสั่งสอนไม่ดี ผลการเรียนลูกดี ความดีทั้งหมดมักเข้าหาตนเอง
เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ปกครองของหวังจื้อห้าวที่อ่านหนังสือไม่ออกสักตัว พวกเราที่มีการศึกษามา ช่างน่าละอายใจยิ่ง
ขณะที่คุณพ่อของหวังจื้อห้าว เดินกลับไปถึงที่นั่งของตนแล้วภายในห้องเรียน ก็มีเสียงปรบมือดังกึกก้อง
ขออุทิศยอดไลค์ ยอดแชร์ทั้งหมด
ให้กับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่รู้หนังสือทุกท่าน แต่สามารถส่งเสียลูก ให้รู้หนังสือได้ และมีชีวิตสุขสบายในอนาคต
และขอ "ขอบคุณ" ครูบาอาจารย์ทุกท่าน ที่สั่งสอนนักเรียนทุกคน โดยเฉพาะ..นักเรียนที่ยากจน เสมอเท่านักเรียนที่พ่อแม่มีฐานะ
ขอขอบคุณบทความและภาพจาก
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1465949050155506&id=100002212767907