เปรตมี 4 ชนิดแต่มีเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่สามารถรับบุญได้
ปรทัตตูปชีวิเปรต ได้แก่ เปรตที่เที่ยวไปสู่เรือนแห่งญาติ เพืีอคอยรับส่วนบุญที่มีผู้อุทิศให้ เมื่อญาติกระทำบุญแล้วอุทิศให้ เป็นเปรตชนิดเดียวที่ได้รับส่วนบุญที่ญาติอุทิศให้. http://winne.ws/n21143
มิลินท์ปัญหา ภาษาบาลี อักษรพม่า หน้า ๒๘๔ - ๒๘๗ แสดงไว้ว่า ฝูงเปรตอันทีมากมายนั้นจัดได้เป็น ๔ จำพวก (12 ตระกูล)คือ
๑] อุตุปชีวิเปรต ๑
๒]ขุปปิปาสิกเปรต ๑
๓]นิชฌานตัณหิกเปรต ๑
๔]ปรทัตตูปชีวิเปรต ๑
อุตุปชีวิเปรต ได้แก่ เปรตที่เลี้ยงชีวิตด้วยมลทินแห่งครรภ์ และบุพโพโลหิตทั้งปวง.
ขุปปิปาสิกเปรต ได้แก่ เปรตที่อดข้าวอดน้ำอยู่เป็นนิจ ล่วงไปจนถึงพุทธันดร.
นิชฌานตัณหิกเปรต ได้แก่ เปรตที่มีเพลิงเผาอยู่ในกาย ประดุจโพลงไม้มีเปลวเพลิงลุดติดอยู่ภายใน
(เปรตทั้ง ๓ ประเภทนี้ไม่สามารถที่จะรับส่วนบุญที่ญาติอุทิศไปให้ได้ )
ปรทัตตูปชีวิเปรต ได้แก่ เปรตที่เที่ยวไปสู่เรือนแห่งญาติ เพืีอคอยรับส่วนบุญที่มีผู้อุทิศให้ เมื่อญาติกระทำบุญแล้วอุทิศให้ เปรตอนุโมทนาในส่วนบุญนั้นย่อมได้เสื้อผ้า อาหาร น้ำ ที่อยู่อาศัย เป็นเปรตชนิดเดียวที่ได้รับส่วนบุญที่ญาติอุทิศให้.
ขอให้ทุกท่านจงโชคดีจากสิ่งที่ตนพึงลงมือกระทำนั้น สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เพราะ ท่านทำตัวท่านเอง
ธมฺเม โหนฺตุ สคารวา ขอชนทั้งหลายจงเป็นผู้มีความเคารพในพระธรรม อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
จากเรื่องนี้ชี้ให้เห็นถึงความซับซ้อนของกฎแห่งกรรม ที่ส่งผลให้ผู้กระทำทั้งดีและชั่วเสวยผลแห่งบุญและบาปที่ตนกระทำตามแรงกรรม .
ทำดีย่อมได้เสวยผลแห่งบุญตามกำลังแห่งบุญคือ เป็นมนุษย์และเทวดา ส่วนผลบาปก็เช่นกัน
ส่งผลให้ตกนรกเป็นเปรต อสุรกายและสัตว์เดียรัจฉาน
แม้เป็นเปรตก็ยังแยกตามกำลังแห่งบาป บาปมากก็ยังรับบุญไม่ได้ต้องทนทุกข์ทรมานอีกยาวนาน ส่วนบาปน้อยลงก็ก็พอรับบุญได้ แต่ก็ต้องมีญาติในเมืองมนุษย์ที่คอยทำบุญอุทิศให้ ใครมีญาติเป็นมิจฉาทิฐิตระหนี่ถี่เหนียว เปรตนั้นก็คงยังทนทุกข์ต่อไปอีกเช่นกัน
ดังนั้นควรหมั่นทำบุญอุทิศให้หมู่ญาติบ่อย ๆ นอกจากหมู่ญาติทั้งในภพสวรรค์และเปรตจะได้รับที่แน่นอนคือผู้ทำบุญเองจะได้บุญเต็มที่ เมื่อละโลกไปก็จะได้เกิดในภพภูมิที่ดีไม่ต้องทนทุกข์รอใครมาอุทิศให้เช่นพวกเปรตค่ะ
ที่มาจาก:จากหนังสือมิลินทปัญหา
ภาพจาก www.google.co.th