สุนทรธรรมากรหรือหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ อตีตเจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัยอำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม ผู้เล่าเรื่องราชาแห่งนาคลาว -ไทย

หลวงปู่คำพันธ์ เล่าเรื่อง "พญานาค" กษัตริย์แห่งเมืองบาดาล "พญาศรีสัตตนาคราช" และ"พญาศรีสุทโธนาคราช"

     ิ  ิิ พระสุนทรธรรมากรหรือหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ อตีตเจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัยอำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม ท่านมีความผูกพันกับพญานาคมาก หลวงปู่คำพันธ์กล่าวว่าทางฝั่งไทยและฝั่งลาวต่างมีกษัตริย์แห่งนาคราช หรือนาคาธิบดี แยกปกครองดูแล

ฝั่งไทยคือพญาศรีสุทโธนาคราช(นาคาธิบดีศรีสุทโธ)เป็นกษัตริย์พญานาคฝั่งไทยเป็นพญานาคหนึ่งเศียร

พญาสัตตนาคานาคราชราชาแห่งนาคฝั่งลาว ซึ่งมีฤทธิ์มากจะกลายเป็นพญานาคเจ็ดเศียรก็ได้

       ฝั่งลาวคือพญาศรีสัตตนาคราช (นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล)ซึ่งเชื่อว่าเป็นกษัตริย์แห่งพญานาคฝั่งลาวเป็นพญานาคเจ็ดเศียร

พญาศรีสุทโธนาคราชราชาแห่งนาคฝั่งไทย

      พญาศรีสุทโธท่านชอบจำศีลบำเพ็ญเพียรและปฏิบัติธรรมมีนิสัยอ่อนโยนมีเมตตา ไม่ชอบการต่อสู้ ชอบมาปฏิบัติธรรมที่พระธาตุพนมโดยมอบหมายให้เหล่าพญานาค 6 อำมาตย์ดูแลแทนในระหว่างที่หลบมาจำศีลภาวนา หลวงปู่คำพันธ์ยังได้กล่าวอีกว่า ส่วนใดที่อยู่ใกล้ต้นน้ำลำธารหรือแม่น้ำใหญ่หากจะจัดให้มีพิธีกรรมอันใดเกิดขึ้น ให้อัญเชิญบอกกล่าวแก่เหล่าพญานาคพิธีกรรมนั้นจะศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง

วังบาดาลที่พญาศรีสุทโธนาคราชออกมาจำศีลช่วงเข้าพรรษา

หลวงปู่ได้เอ่ยชื่อ 6อำมาตย์แห่งพญานาคไว้เพียง3คือ

1.  พญาจิตรนาคราชเป็นพญานาคที่รักสวยรักงาม มีเขตแดนปกครองของตนตั้งแต่ตาลีฟูถึงจังหวัดหนองคายตามแนวแม่น้ำโขงโดยมีที่สุดแดนอยู่ที่วัดหินหมากเป้ง

อำมาตย์ทั้ง 6 ของพญาศรีสุทโธนาคราชเจ้าแห่งเมืองบาดาล

2.พญาโสมนาคราชมีเขตแดนปกครองตั้งแต่วัดหินหมากเป้งมาจนถึงวัดพระธาตุพนมสุดเขตแดนที่แก่งกะเบาพญาโสมนาคราชมีอุปนิสัยคล้ายพญาศรีสุทโธนาคราชคือชอบปฏิบัติธรรมจึงเป็นที่ไว้วางใจและโปรดปรานแก่พญาศรีสุทโธนาคราชมากกว่าพญานาคอื่นๆ

วัดหินหมากเป้งเป็นเขตที่พญาจิตรนาคราชอำมาตย์ปกครองดูแล

พระธาตุพนมจะมีพญาโสมนาคราชอำมาตย์ที่คอยปกป้องและดูแลรักษา และราชาแห่งนาคทั้งลาวและไทยจะแวะเวียนมานมัสการมิได้ขาด

3.  พญาชัยยะนาคราชมีเขตแดนจากแก่งกะเบาเรื่อยไปจนสุดแดนที่ปากแม่น้ำโขงลงทะเลในเขมรพญานาคตนนี้มีฤทธิ์เดชมากชอบการรณรงค์ทำสงครามคือ ชอบการต่อสู้เป็นนิสัย

แก่งกะเบาอ. หว้านใหญ่จ.มุกดาหารเป็นเขตของพญาชัยยะนาคราชอำมาตย์ปกครองดูแล

    พญาศรีสัตตนาคราช เป็นใหญ่เหนือพญานาคทั้งปวงในฝั่งลาว เป็นพญานาคที่ทรงฤทธิ์มากท่านเป็นพญานาคที่ชอบจำศีลและประพฤติปฏิบัติธรรมมากเหมือนกับพญาศรีสุทโธนาคราชโดยชอบมาที่วัดพระธาตุพนมเหมือนกัน

ในโอกาสที่ท่านได้บอกกล่าวเรื่องพญานาคนี้ ท่านจึงได้กล่าวพยากรณ์ว่า

         พญานาคจะช่วยผู้ที่เชืี่อมั่น ศรัทธาในพญานาคให้ผ่านพ้นอันตรายจากภัยพิบัติเพราะ้ที่เชื่อมั่นท่านจะเชืี่อในกฎแห่งกรรมเชื่อมั่นในการทำความดีเรื่องนี้จะเกิดขึ้นหลังจาก ท่านมรณภาพไปแล้ว 3 ปี … หลังหลวงปู่ตาย 3 ปี เป็นต้นไปบ้านเมืองจะเริ่มวุ่นวายเดือดร้อนให้พวกเจ้าศรัทธาในพระพุทธศาสนา และบวงสรวงพญานาค ก็จะพ้นวิกฤตินั้นได้” 

พญานาคชั้นสูงหริอชนชั้นกษัตริย์จะเป็นพญานาคตรกูลเอราปถะมีกายสีทอง กายจะเป็นกายทิพย์งดงามดุจเทวดา

นี้ก็เป็นเรื่องราวของพญานาคที่หลวงปู่ท่านพบเจอและเล่าเรื่องราวให้ฟัง เพราะพญานาคเป็นผู้มีฤทธิ์มากกึ่งสัตว์หิมพานต์กึ่งเทพ พญานาคชั้นสูงก็จะมีกายทิพย์และวิมานดุจเทวดา พญานาคจะผูกพันธ์กับพระพุทธศาสนามาตลอดตั้งแต่ตรัสรู้ธรรได้ไม่นานก็มีพญานาคคอยอารักขาดูแลพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ควงไม้มุจลินท์

และอีกคราวที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ในวันออกพรรษาหลังจากขึ้นไปจำพรรษาเทศน์โปรดเทวบุตรพุทธมารดาและเหล่าเทวดา พญานาคก็ได้เห็นเหตุการณ์พะพุทธเจ้าเปิดโลกทั้งสาม ให้เหล่ามนุษย์เทวาและสัตว์นรกต่างมองเห็นกัน ท่านเกิดความเลื่อมใสจึงจำศีลภาวนาเพื่อกลั่นประทีปถวายเป็นพุทธบูชา จนเป็นที่มาเรื่องราวบั้งไฟพญานาคอันอัศจรรย์

ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก

http://m.tnews.co.th/contents/206150/

www.google.co.th