เสวนาทางวิชาการ เรื่อง "มองภัยพระพุทธศาสนา ผ่านสถานการณ์ความขัดแย้งในปัจจุบัน"
"เจ้าคุณเทียบ"จัดหนักในวงเสวนา"มองภัยพระพุทธศาสนา ผ่านสถานการณ์ความขัดแย้งในปัจจุบัน"พุทธอิสระแตะต้องไม่ได้ คนทั่วไปแตะคณะสงฆ์ได้ทุกอย่าง พศ.ชี้รัฐปฏิบัติสองมาตรฐานหรือไม่“ http://winne.ws/n41
เสวนาทางวิชาการ เรื่อง "มองภัยพระพุทธศาสนา ผ่านสถานการณ์ความขัดแย้งในปัจจุบัน"
9 มี.ค. ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วิทยาลัย(มจร.) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มีการจัดอภิปรายเสวนาทางวิชาการ เรื่อง "มองภัยพระพุทธศาสนา ผ่านสถานการณ์ความขัดแย้งในปัจจุบัน" โดยพระสุธีธรรมนุวัตร หรือ เจ้าคุณเทียบ คณบดีคณะพุทธศาสตร์ มจร. กล่าวว่า ภัยของพระพุทธศาสนา ในอดีตมีกระบวนการ ปัจจุบันมีวาทะกรรมมากมายที่สร้างความขัดแย้งในสังคมและมีการแสดงความเห็นโดยไม่ไตร่ตรอง เวลาโพสต์อะไรต้องระมัดระวังให้มีสติ ซึ่งตอนนี้เราเลือกข้างกันชัดเจน เราไม่สามารถแตะต้องพุทธอิสระได้ แต่คนทั่วไปแตะต้องคณะสงฆ์เราทุกรูปแบบ แต่เราเล่นหน้าเดียว ดังนั้น เราต้องมีฝ่ายบู๊ ฝ่ายวิชาการ ฝ่ายสนับสนุน ในขณะเดียวกันจะมีการร้องการให้ปลด พระเมธีธรรมมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสาน จากรองอธิการบดี ซึ่งจริง ๆ แล้ว ไม่อยากให้มีการซ้ำเติมกัน เรามีพ่อคนเดียวกัน แต่เรามาด่ากันเอง
เสวนาทางวิชาการ เรื่อง "มองภัยพระพุทธศาสนา ผ่านสถานการณ์ความขัดแย้งในปัจจุบัน"
เสวนาทางวิชาการ เรื่อง "มองภัยพระพุทธศาสนา ผ่านสถานการณ์ความขัดแย้งในปัจจุบัน"
นางณัฐนันท์ สุดประเสริฐ นักกฏหมาย นักวิชาการ ด้านพระพุทธศาสนา กล่าวว่า เรามีภัยภายในและภัยภายนอกมีการบิดเบือนคำสอนของพระพุทธศาสนาทำให้ศาสนิกเกิดการทะเลาะวิวาท ด้วยการทำลายความสามัคคี ทำให้เกิดความแตกแยกทางความคิดเรามีหนอนในไส้มากมาย ด้วยการใช้วาจาให้เกิดความแตกแยก ดังนั้น ภัยพระพุทธศาสนา จึงไม่ใช่เรื่องภิกษุประพฤติผิดวินัย เพราะภิกษุประพฤติผิดวินัยมีมาแต่สมัยพุทธกาล หากการที่ภิกษุประพฤติผิดพระวินัย เป็นภัยต่อพระพุทธศาสนาคงไม่ดำรงคง อยู่มาถึงสองพันกว่าปี แต่ภัยพระพุทธศาสนา คือ การทำธรรมวินัยให้วิปริต คือภัยพระพุทธศาสนาที่แท้จริง ทั้งนี้วิธีการแก้ไข คือ ชาวพุทธต้องหันมาศึกษาพระธรรมวินัยจากพระไตรปิฎกให้มากขึ้น
นายประสงค์ จักรคำ ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ประเด็นสมเด็จพระสังฆราช เขามองเราว่าการที่พระมาชุมชนประท้วงนั้นไม่มีความเหมาะสม เขาบอกว่า มติ มส.ไม่ถูกต้อง พระที่ออกไปพุทธมณฑล จะโดนเรียกไปปรับทัศนคติ มีการสร้างสถานการณ์ แต่มีพระอีกรูปหนึ่งจะไปยื่นหนังสือที่พุทธมณฑล แบบนี้ถือว่าสองมาตรฐานหรือไม่ ดังนั้น ภัยปัจจุบันมีทั้งภัยภายใน กับภัยภายนอก มี 5 ประการ คือ 1.สาวกพิกล คือ บริษัท 4 คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ไม่ศึกษาธุระ 2 คือ คันถะธุระ และวิปัสสนาธุระ 2.ประชาชนวิบัติ คือ ด้านเศรษฐกิจ ไม่ประกอบสัมมาชีพ ด้านสังคม ไม่เคารพและเข้าใจหลักการศาสนา ด้านการเมือง ไม่เคารพกฎหมาย 3.ผู้นำพินาศ คือ ผู้นำในทุกระดับชั้นการปกครองไม่มีธรรมาภิบาล 4.ไม่เคารพพระไตรปิฏก และ5.คนในชาติขาดความสามัคคี คือ คนในชาติเกิดความขัดแย้งกัน “
ด้านนายกรณ์ มีดี นายกสมาคมทางสายกลาง กล่าวว่า หน้าที่ปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา เป็นหน้าที่ส่วนรวม หน้าที่วางเฉยเป็นหน้าที่ส่วนตัว ปัจจุบันนี้มีวาทะกรรมมากมายเกี่ยว กับพระพุทธศาสนา มีภาพลบเกี่ยวกับพระมากมาย เป็นจำนวนพัน ๆ ภาพเรียกว่า "กระบวนการทำลายศรัทธา"
แหล่งข้อมูล : http://www.dailynews.co.th/education/384740