ประโคมข่าว เพื่ออะไรครับ เพื่อให้ท่านตกเป็นจำเลยสังคมก่อน

และเมื่อถึงเวลากำจัดจะได้จัดการได้อย่างถูกใจสังคมคนหูเบาตั้งศาลเตี้ยตัดสินไงครับ เพราะถ้าอยู่ๆจะมาจัดการเลย ก็จะดูน่าเกลียดไป ต้องใช้สื่อมาช่วยนิดนึง ประโคมข่าวเสียหายเข้าไป

พอได้เวลาที่คนหูเบาตัดสินไปแล้ว ก็ใช้อำนาจกฎหมายที่ตัวเองมีเข้ามาจัดการ โดยแทนที่จะเป็นภาพของผู้ร้ายรังแกพระ  ก็เข้ามาแบบฮีโร่กำจัดเหลือบศาสนาครับ เหมือนนิทานหมาป่าจะกินแกะครับ ต้องมีเหตุผลที่จะกินก่อนครับ

แล้วก็ยัดคดีที่เป็นคดีอาญาให้ไป อะไรก็ได้ครับ
เช่น ฟอกเงิน , รับของโจร , หนีภาษี , ภัยความมั่นคง ฯลฯ

อะไรก็ได้ครับ แล้วแต่จะหาคนมาฟ้องได้  แล้วก็เรียกสอบสวน โดยอ้างว่าทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย

ออก หมายเรียก ก่อน
ถ้าไม่ให้ความร่วมมือก็ออกเป็น หมายจับ

ระหว่างนั้นก็ออกข่าวออกสื่อ ครึกโครมตลอด ให้เป็นจำเลยสังคม
เพราะบ้านเราชอบตั้งศาลเตี้ยตามข่าวที่ได้ยิน ทั้งที่เป็นเพียงข่าวลือจากใครก็ไม่รู้

ถ้ายังไม่ได้ตัว ก็ขอหมายค้น เพื่อเอามาขึ้นศาลให้ได้

พวกไม่รู้เรื่องก็บอกให้ไปพิสูจน์ตัวเองสิ ครับ ถ้าเขามีธงอยู่แล้วก็สบายเลย แม้ไม่ต้องถึงศาลก็เรียบร้อยครับ

เพราะในการสอบสวน เมื่อจับแล้วต้องสอบสวนและมีสิทธิ์ไม่ให้ประกันตัว คือขังไว้สอบสวน ซึ่งถ้าเป็นฆราวาสก็ไม่เท่าไร 

แต่ของพระคือ สึก ครับ!!!!!!!!!!!

สึกก่อนแล้วค่อยพิสูจน์ที่หลังผิดถูกค่อยว่ากัน ถ้าไม่ชอบใจก็ขังไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบพิสูจน์
แต่ถ้าพวกเดียวกัน ก็พิจารณาไม่ต้องขัง เป็นไงครับ ง่ายดีไหม

นี่ขนาดยังไม่ถึงศาลเลยนะครับ แค่ขั้นตอนสอบสวนเท่านั้นเอง

มาดูข้ออันตรายกันนะครับ   พรบ.สงฆ์ พ.ศ.2505 มาตรา 29

คือไม่รู้ใครเสนอกฎหมายข้อนี้นะครับ  อ้างว่าชุดพระไม่ควรอยู่ในคุก ต้องสละผ้าเหลืองก่อน
แล้วก็จับสึกซะเลย
โอ้ว.... ง่ายยยยยจริงๆ

ให้อำนาจกับพนักงานสอบสวนมากๆ นี่ขนาดยังไม่ตัดสินนะครับ โดนให้สึกแล้ว แล้วถ้าสุดท้ายท่านไม่ผิดล่ะ ก็สึกไปแล้วทำไงได้ 
ถ้าบวชมาหลายๆ สิบปี แล้วต้องมาสึกจากแค่ข้อกล่าวหา หรือการยัดคดีล่ะครับ

ไม่ใช่ไม่เคยมีนะครับ
มีมาแล้ว หลายรูปเลยครับ
ที่ดังมากคือ กรณีพระพิมลธรรม
ขนาดเป็นถึงสมเด็จผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนพระสังฆราชนะครับ ยังโดนเล่นงานเลย 

ดังนั้นถ้าใครมีอำนาจ แล้วคิดจะกำจัดขั้วตรงข้ามล่ะก็ ไม่ยากครับ ขอแค่เป็นคนเลวและมีอำนาจ ไม่กลัววิบากกรรมซะอย่าง ก็ทำได้แล้ว

Cr. Fb.น้องแสนดี